รมว.ทส.เผย นายกฯกำชับ ครม. ให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง งัดกฎหมายเข้ม ดับไฟป่าภาคเหนือ
เมื่อวันที่ 6 เมษายน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องอาทิ กลาโหม มหาดไทย ทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ ให้บูรณาการงานร่วมกันเพื่อช่วยกันแก้ปัญหาไฟป่าทางภาคเหนือ โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด หากแต่ละหน่วยงานเห็นว่ามีกฎหมายใดบ้างก็ขอให้งัดมาใช้ และดำเนินการอย่างเต็มที่ที่สุด ไม่ให้ละเว้นเด็ดขาด ถ้าจับใครได้ก็ดำเนินการให้เต็มที่ ทั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3-4 รายแล้ว และจะจับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เว้น ซึ่งมีการฟ้องร้องคดีมากขึ้นหลังจากที่เมื่อก่อนไม่มีการฟ้องคดี แต่ในปัจจุบันให้ทางราชการเป็นเจ้าทุกข์ฟ้องดำเนินคดีทุกราย
โดยนายกฯให้ทุกหน่วยงานทำงานภายใต้กรอบกฎหมายที่สามารถจะทำได้ ให้ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ให้ร่วมมือและช่วยกัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ทุกกระทรวงร่วมมือดำเนินการกันอยู่แล้วในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนธิกำลังร่วมกันทุกหน่วยงานเพื่อให้มีชุดปฏิบัติการ ชุดละประมาณ 10 คน เข้าไปในทุกหมู่บ้าน เพื่อความเข้าใจ ซึ่งผลที่ออกมาทำให้จุดความร้อนในพื้นที่แต่ละแห่งนั้นลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ในช่วง1-2สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งชุดปฏิบัติการดังกล่าวยังดำเนินการ ต่อเนื่องต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ รมว.ทส. กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่มีการพูดถึงแต่ขณะนี้ก.ทส. ดำเนินการประกาศปิดป่าแล้ว ฉะนั้นตอนนี้เจอใครเข้าป่าเราจะหมด เพราะไม่มีเหตุใดที่จะมีใครเข้าป่าในเมื่อประกาศปิดแล้ว
ส่วนกรณีข้อเรียกร้องให้แจกหน้ากากป้องกันฝุ่นพิษให้กับประชาชนภาคเหนือ รมว.ทส.กล่าวว่า ซึ่งถ้า หน้ากากอนามัยที่จะป้องกันPM2.5ได้ก็ต้องเป็น N95 ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบากพอสมควรในขณะนี้ เนื่องจากเป็นผล กระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การบริหารราชการมีความละเอียดอ่อนยิ่งขึ้นแต่ เราจะพยายามทำให้เต็มที่อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
นายวราวุธ เปิดเผยว่า อย่างไรก็ตามในวันที่ 8-9 เมษายนนี้ตนและ คณะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย เพื่อไปดูสถานการณ์ ด้วยตัวเองอีกครั้ง