คณะสงฆ์ลพบุรี ประกาศ! ให้ใส่หน้ากากฯบิณฑบาต งดเดินทาง ตปท. จัดกิจกรรมตั้งจุดคัดกรองทางเข้าบริเวณวัดฯ

พระเทพเสนาบดี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี  , พระครูภัทรปัญญาวุธ เจ้าคณะอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ได้เปิดเผยประกาศคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร เรื่องมาตรการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ #COVID-19 สำหรับพระภิกษุ สามเณร ความว่าเนื่องด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ที่องค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็น “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” และรัฐบาลไทยได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้โรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตราย อีกทั้ง คณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี ได้มีมติที่ ประชุม ครั้งที่ 3/2563 เรื่อง มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) สำหรับพระภิกษุ สามเณร นายพื้นที่จังหวัดลพบุรี

เจ้าคณะจังหวัดลพบุรีห่วงสถานการณ์โควิด-19 ออกประกาศให้พระสงฆ์งดกิจต่างประเทศและงานปริวาสกรรม ส่วนกิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนปีนี้ หากวัดไม่สามารถงดหรือเลื่อนได้ ให้มีมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดตามกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลและปฏิบัติตามมติมหาเถรสมาคม เพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) จึงขอให้คณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี ทำตามมติคณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี อย่างเคร่งครัด

พระเทพเสนาบดี (ประเทือง อาภาธโร เจ้าอาวาส วัดกวิศรารามราชวรวิหาร พระอารามหลวง  เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้มีมติที่ประชุมของคณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี ออกประกาศเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เรื่องมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) สำหรับคณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี ว่า ตามที่องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เป็น “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” และรัฐบาลได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้เป็นโรคติดต่ออันตราย อีกทั้งมหาเถรสมาคมมีมติในมาตรการควบคุมและป้องกันการแพระบาดของโรคสำหรับพระภิกษุสามเณร ดังนั้น เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล และมหาเถรสมาคม อีกทั้งเพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 จึงขอให้คณะสงฆ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินการดังนี้
1. หลีกเลี่ยง / เลื่อนการเดินทางไปยังประเทศ หรือพื้นที่มีการระบาดของโรค หากไม่มีกิจจำเป็นให้งดการเดินทางไปต่างประเทศ
2. กิจกรรมการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ประจำปี 2563 หากวัดไม่สามารถงด / เลื่อนการดำเนินกิจกรรมได้ ให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
3. งด / เลื่อน กิจกรรมการปฏิบัติธรรม หรืองานปริวาสกรรม ไปจนกว่าจะมีประกาศเป็นอย่างอื่น
4. งานกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่มีคนหมู่มาก เช่น กิจกรรมงานวัด งานผูกพัทธสีมา เป็นต้น ให้วัดดำเนินการตามมาตรการป้องกันของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดและรอบคอบ
5. ขอให้พระภิกษุสามเณร ได้ปฏิบัติตามมาตรการและข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ดังนั้น เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล มติมหาเถรสมาคม และจังหวัดปทุมธานี ในการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จึงขอให้คณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานี ดำเนินการ ดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการเดินทางหรือเลื่อนการเดินทางไปยังประเทศหรือพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
2.หากเดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข หรือประเทศที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้กักตัวเองเพื่อสังเกตอาการ เป็นระยะเวลา 14 วัน
3.เลื่อนการลงพื้นที่ตรวจประเมินโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข (สร้างสัปปายะสู่วัดด้วยวิถี 5 ส) ประจำปี พ.ศ.2562 ของคณะกรรมการติดตามประเมินผลโครงการฯ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
4.เลื่อนการจัดประชุมพระสังฆาธิการ ระดับเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส และผู้ช่วยเจ้าอาวาส ประจำปี พ.ศ.2563 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
5.งดการเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล และถวายเป็นพระราชกุศลฯ วันที่ 28 มีนาคม 2563 และวันที่ 28 เมษายน 2563 (ตามมติมหาเถรสมาคมที่ 142/2563 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563)
6.งดการจัดกิจกรรมสรงน้ำเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ.2563
7.งดหรือเลื่อนโครงการอบรมเด็ก และเยาวชน ออกค่ายคุณธรรม จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
8.งดหรือเลื่อนกิจกรรมสำหรับชาวต่างประเทศ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
9.หลีกเลี่ยงหรือเลื่อนการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก และอาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น งานประจำปี ประเพณีสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัว การบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน กิจกรรมการปฏิบัติธรรม งานปริวาสกรรม เป็นต้น หากไม่สามารถเลื่อนกิจกรรมดังกล่าวได้ให้ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวัง และป้องกัน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด
10.กิจกรรมปกติ เช่น การทำบุญเนื่องในวันพระ ทำบุญใส่บาตร/ถวายภัตตาหาร งานศพ/ทำบุญอุทิศส่วนกุศล ให้ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวัง และป้องกัน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด

11.เมื่อปฏิบัติศาสนกิจบิณฑบาต/กิจนิมนต์ ให้ใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าที่ได้มาตรฐานทุกครั้ง
12.ไม่ควรใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อนส้อม ผ้าเช็ดมือ อาสนะรองนั่ง ผ้าปูกราบ หนังสือสวดมนต์ เป็นต้น ให้แต่ละบุคคลนำติดตัวมา สำหรับใช้ส่วนตัว
13.ให้ความรู้ คำแนะนำ หรือจัดหาสื่อประชาสัมพันธ์ การป้องกันการแพร่กระจายโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แก่ผู้มาเข้าร่วมกิจกรรม เช่น โปสเตอร์ เสียงประชาสัมพันธ์ การหมั่นล้างมือและการล้างมือที่ถูกวิธี ลดการสัมผัสสิ่งของสาธารณะ/พื้นผิวต่างๆ การสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าที่ได้มาตรฐาน และถูกวิธีทุกครั้งที่มาร่วมกิจกรรม ระมัดระวังการสัมผัสใบหน้า มีสติในการรับฟังข่าวสาร
14.ประชาสัมพันธ์ถึงญาติโยม กรณีญาติโยมมีอาการป่วย เป็นไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก ขอความร่วมมือให้พักรักษาตัวอยู่ที่บ้านก่อน เมื่อรักษาสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีแล้ว จึงมาร่วมกิจกรรมที่วัดตามปกติ
15.จัดหาเจลล้างมือแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ และจัดทำจุดบริการล้างมือพร้อมสบู่ เพื่ออำนวยความสะดวกในพื้นที่ที่มีการสัมผัสของร่วมกัน เช่น จุดประชาสัมพันธ์ จุดถวายสังฆทาน จุดรับบริจาค จุดปฐมพยาบาล ห้องสุขา เป็นต้น พร้อมรณรงค์ให้ญาติโยมล้างมือก่อนใส่บาตร/ถวายภัตตาหารพระทุกครั้ง
16.จัดกิจกรรมประจำวัน เช่น การสวดมนต์ ไหว้พระ ปฏิบัติธรรม ในสถานที่ลักษณะเปิดโล่ง อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก เปิดพัดลมระบายอากาศ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ห้องปรับอากาศ
17.จัดให้มีการทำความสะอาดอุปกรณ์ และบริเวณที่มีผู้สัมผัสปริมาณมาก เช่น ราวบันใด ลูกบิด/ที่จับประตู ไม้ตีระฆัง ห้องน้ำ หอฉัน ห้องปฏิบัติธรรม เป็นต้น ด้วยน้ำผงซักฟอก น้ำยาทำความสะอาด (ตามความเข้มข้นที่แนะนำข้างผลิตภัณฑ์) หรือ 70% แอลกอฮอล์ วันละอย่างน้อย 2 ครั้ง
18.จัดจุดปฐมพยาบาลให้การดูแลรักษาเบื้องต้นแก่ผู้ป่วย รวมทั้งจัดให้มีการคัดกรองขั้นพื้นฐาน ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าพื้นที่จัดกิจกรรม
19.หากพบผู้มีอาการป่วย ให้แยกผู้ป่วยออกจากกิจกรรมนั้นๆ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งกลับไปรักษาตัวที่บ้านหรือโรงพยาบาล
20.ลดความแออัดของผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยอาจพิจารณากระจายสถานที่หรือมุมที่ทำกิจกรรมได้หลายๆ แห่งในวัด และจัดที่นั่งให้ผู้มาร่วมกิจกรรม อยู่ห่างจากกันอย่างน้อย 1.5 เมตร

ทั้งนี้ ขอให้พระภิกษุ สามเณร ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ประกาศ ณ วันที่ 31มีนาคม พ.ศ.2563

พระเทพเสนาบดี (ประเทือง อาภาธโร เจ้าอาวาสวัดกวิศรารามราชวรวิหาร พระอารามหลวง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าคณะสงฆ์ ได้ได้ร่วมกับลูกศิษย์ ได้ผลิต ตัดเย็บจีวรเป็นหน้ากากอนามัยถวายพระสงฆ์ ป้องโควิด-19 จำนวน 10,000 ชิ้น ต่อวัน จะร่วมมือกับทางวัดช่วยการผลิต ให้มาก เพียงพอกับวัดที่ขาดแคลน ช่วยกันตัดเย็บหน้ากากอนามัยเพื่อนำไปถวายพระสงฆ์ ตามวัดต่างๆในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งในแต่ละวันจะมีพระภิกษุมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก แต่ขาดหน้ากากอนามัยใช้ป้องกันตัวเอง อีกทั้งหากจะใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าที่มีสีสันหรือลวดลายอื่นอาจจะไม่เหมาะสมเท่าใดนัก ดังนั้นจึงได้นำผ้าจีวรมาตัดเย็บเป็นหน้ากากอนามัยถวายพระสงฆ์ได้ใช้อย่างทั่วถึง วัดที่ขาดแคลนที่อยู่ในจังหวัดลพบุรีหน้ากากอนามัยผ้าจีวรนี้ พระสงฆ์สามารถนำกลับไปใช้ที่วัด เมื่อออกรับกิจนิมนต์จากญาติโยมต่าง ๆ ก็สามารถนำมาใช้และซักแล้วใช้ซ้ำหลายครั้งได้ เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ให้กับพระสงฆ์ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เป็นห่วง พระสงฆ์ ประจำ พรรษาอยู่ที่ วัดที่อยู่ห่างไกล

ภาพ/ สนอง แท่นสูงเนิน
ข่าว/ ใจรัก วงศ์ใหญ่
สราวุต พิราบขาว 18 รายงาน