แอบตีเนียน!ตชด.146จับพม่าแอบสวมป้ายทะเบียนขนรถจยย.ข้ามแดน
วันที่ 27 ธ.ค.62 เวลาประมาณ 12.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 ด่านสิงขร นำโดย ดาบตำรวจดำเนิน คุ้มสา หัวหน้าชุดงานข่าว ตชด.146 พร้อมด้วย ดาบตำรวจธีรวัฒน์ คชชะ ดาบตำรวจพีรวัฒน์ เอ้สมนึก สิบตำรวจโทศุภกิตติ์ อินทรบำรุง นายธนู มณฑาทอง นายณัฐวุฒิ จันทร์แก้ว ปลัดอำเภอเมืองประจวบ พร้อมด้วย ตำรวจ สภ.คลองวาฬ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดประจวบ ตำรวจท่องเที่ยว ได้ร่วมกันจับกุมชายชาวต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ทราบชื่อ นายโกเม ไม่มีนามสกุล อายุ 30 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ขณะกำลังสวมใส่ป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda Wave 110 สีแดง-ดำ สภาพใหม่เป็นป้ายทะเบียนของประเทศเมียนมาร์ เพื่อที่จะขับขี่ข้ามไปยังประเทศเมียนมาร์ได้อย่างสะดวกปลอดภัย โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณลานจุดขนถ่ายสินค้าจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร หมู่ 6 บ้านไร่เครา ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดการข่าว ร้อย ตชด.146 ด่านสิงขร ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มบุคคลไม่ทราบสัญชาติ จะนำรถจักรยานยนต์ข้ามไปยังประเทศเมียนมาร์ โดยใช้วิธีการสวมป้ายทะเบียนเปลี่ยนจากของไทยเป็นป้ายทะเบียนของเมียนมาร์เพื่ออำพรางการผ่านออกนอกประเทศไทยทางช่องทางจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร จึงได้รายงานให้ พันตำรวจเอก ปฐม อุ่นอบ ผกก.ตชด.14 และพันตำรวจตรีสัมฤทธิ์ จันทร์ประทัด ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 146 ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเฝ้าสังเกตการณ์จนพบเห็นนายโกเม กำลังเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของประเทศเมียนมาร์ จึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจสอบและเมื่อตรวจสอบไม่พบเอกสารใดๆของรถจักรยานยนต์ และเอกสารแสดงตัวการขออนุญาตเข้า-ออกประเทศไทย จึงได้จับกุมตัวและตรวจยึดของกลางพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาพยายามนำรถจักรยานยนต์ออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ. คลองวาฬ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยในเบื้องต้น นายโกเม สามารถพูดและฟังภาษาไทยได้อย่างชัดเจน และให้การยอมรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายเวนนายซึ่งอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านมูด่อง อำเภอตะนาวศรี จังหวัดมะริด ประเทศเมียนมาร์ ให้มารับรถจักรยานยนต์จากนายหน้าฝั่งไทย แล้วนำรถจักรยานยนต์ข้ามไปยังประเทศเมียนมาร์ โดยจะได้รับค่าจ้างคันละ 2,000 บาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการตรวจสอบว่ามีท้องที่ใดได้มีการแจ้งรถจักรยานยนต์หายไว้บ้างหรือไม่ พร้อมหาที่มาของรถจักรยานยนต์และติดตามหาเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่แท้จริงมารับรถคืนต่อไป
ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ(นักข่าวบ้านนอก) จังหวัดประจวบฯ