“ธรรมนัส” ผุดไอเดีย ให้ อตก. ผลิต “หมอนยางพาราประชารัฐ” 20 ล้านใบ มอบให้ประชาชน โดยร่วมกับกยท. รับซื้อน้ำยางจากกลุ่มเกษตรกรในราคานำตลาด
สนองนโยบายนายกฯ เพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศ เพื่อยกระดับราคายางพารา เล็งให้กองสลากฯ ออกสลากพิเศษจำหน่าย นำเงินมาดำเนินโครงการ ไม่ใช้งบประมาณรัฐ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กำลังเร่งดำเนินโครงการผลิตหมอนยางพาราประชารัฐ 20 ล้านใบมอบให้ประชาชนและหน่วยงานภาครัฐนำไปใช้ ทั้งนี้เพื่อยกระดับราคายางพารา ด้วยการเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศให้ได้ผลจริงตามคำสั่ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมามีเป้าหมายใช้ 200,000 ตันต่อไป เพื่อลดประมาณยางในระบบ แต่ทำได้เพียงร้อยละ 10 ดังนั้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงจะนำเสนอครม. เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการดังกล่าว โดยให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) ดำเนินการผลิตหมอนยางพารา
ทั้งนี้หมอนใบหนึ่งใช้น้ำยางพารา 3-4 กิโลกรัมซึ่งจะประสานการยางแห่งประเทศไทย (ก.ย.ท.) กำหนดวิธีการรวบรวมวัตถุดิบจากสหกรณ์ชาวสวนยาง กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน รับซื้อในราคาที่สูงกว่าตลาดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล อีกทั้งในระยะยาวจะสามารถยกระดับราคายางพาราให้สูงขึ้นได้ตามที่พรรคพลังประชารัฐได้หาเสียงไว้ว่า จะทำให้ราคายางพาราที่ตกต่ำอยู่มายาวนาน ปรับสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 65 บาทให้ได้
เดิมทีนั้นจะเสนอครม. อนุมัติให้อตก. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงเกษตรฯ กู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ จากนั้นให้อตก. ประสานกับกองสลากแห่งประเทศไทยออกสลากพิเศษจำหน่ายแก่ประชาชนเพื่อนำเงินมาผลิตหมอน มุ่งหวังให้เป็นโครงการใหญ่เปิดพุทธศักราช 2563 มอบเป็นของขวัญแก่เกษตรกรชาวสวนยางพาราและประชาชน จากนั้นนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายชำระหนี้เงินกู้พร้อมดอกเบี้ยแก่ธ.ก.ส. จนครบจำนวน ดังนั้นจึงเป็นโครงการที่ไม่ได้ใช้งบประมาณรัฐต่อมาคณะทำงานของร.อ. ธรรมนัสพบว่า อตก. ไม่สามารถกู้เงินจากธ.ก.ส. ได้เนื่องจากผลประกอบการขาดทุนมา 5 ปี แต่ไม่ได้ล้มเลิกโครงการนี้แต่อย่างใด อยู่ระหว่างมอบหมายหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันหาแนวทางดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลให้สำเร็จ
ที่ผ่านมาได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงเกษตรฯ รวมถึงเชิญอธิบดีกรมสรรพสามิต ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้อํานวยการสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ผู้จัดการธ.ก.ส.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องหารือการจัดทำรายละเอียดโครงการนี้ในเบื้องต้นแล้ว จากนั้นในวันที่ 8 มกราคม 2563 จะเชิญประชุมอีกครั้งเพื่อเร่งรัดดำเนินการ โดยการยางแห่งประเทศไทย (ก.ย.ท.) จะเชิญผู้ประกอบการผลิตเครื่องนอนจากยางพาราชั้นนำมาหารือเพื่อขอความร่วมมือในการผลิตหมอนประชารัฐ
ร.อ. ธรรมนัสกล่าวต่อว่า มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาแนวทางที่จะนำเครื่องนอนที่ผลิตจากยางพาราไปใช้ในภาคการท่องเที่ยวด้วย โดยขอความร่วมมือสมาคมโรงแรมและรีสอร์ทนำเครื่องนอนยางพาราไปเปลี่ยนที่นอนเดิม เมื่อนักท่องเที่ยวไปพัก แล้วได้ทดลองนอนจะได้ทราบว่า เครื่องนอนจากยางพารามีคุณภาพ นอนสบาย และมีความคงทนซึ่งจะเป็นการขยายตลาดสินค้ายางพาราต่อไป โดยอยู่ระหว่างกำหนดมาตรการจูงใจแก่ผู้ประกอบการที่ร่วมโครงการ
“จะเร่งเดินหน้าโครงการนี้หลังปีใหม่ทันที โดยนอกจากหมอนยางพาราแล้ว ได้สั่งการหาช่องทางการตลาดในการนำยางพารามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยต่อไปอาจจำหน่ายบนเว็บไซต์ของอตก. เพื่อให้ประชาชนสั่งซื้อได้ง่าย หากการใช้ยางในประเทศเพิ่มขึ้นจะทำให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาด จากปัจจุบันราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 อยู่ที่กิโลกรัมละ 42-43 บาท มุ่งหวังให้เพิ่มขึ้นถึง 65 บาทต่อกิโลกรัมเพื่ช่วยเหลือเกษตรกรที่เดือดร้อนจากราคายางพาราตกต่ำมายาวนาน มีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามนโยบายรัฐบาล” ร.อ. ธรรมนัสกล่าว