“เฉลิมชัย”สั่งด่วน กรมชลประทานตั้ง “ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขและบรรเทาวิกฤตภัยแล้ง ปี 2562/63”
ตามบัญชานายกรัฐมนตรี เน้นแก้ไข บรรเทาวิกฤติภัยแล้ว รวมถึงบูรณาการทุกหน่วยงานของกระทรวง ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้สั่งการด่วนที่สุดให้อธิบดีกรมชลประทานตั้ง “ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขและบรรเทาวิกฤตภัยแล้ง ปี 2562/63” เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามบัญชาของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้ (25 ธ.ค.) เดินทางมาตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่จังหวัดชัยภูมิ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งขณะนี้กระทรวงมหาดไทยประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งทั่วประเทศแล้ว 11 จังหวัด นอกจากนี้ยังสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดชุดออกสำรวจข้อมูลน้ำแยกเป็นน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร หากพบพื้นที่ใดขาดแคลนน้ำได้เร่งออกแจกจ่ายน้ำให้แก่ประชาชน รวมทั้งยังขุดบ่อบาดาลนำน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
นายเฉลิมชัยกล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทานเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยในเขตชลประทานนั้นยืนยันว่า ไม่มีปัญหาขาดแคลนน้ำแน่นอนเนื่องจากวางแผนบริหารจัดการน้ำมาล่วงหน้าและดำเนินการตามแผนอย่างเคร่งครัด ส่วนพื้นที่นอกเขตชลประทานนั้นก็ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ช่วยเหลือ ทั้งนี้ขอความร่วมมือเกษตรกรงดเว้นการปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ที่แจ้งล่วงหน้าแล้วว่า ไม่มีน้ำสนับสนุนโดยเฉพาะลุ่มเจ้าพระยา สำหรับบางพื้นที่ที่มีน้ำเพียงพอทำการเกษตร ขอให้ฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ว่า สามารถเพาะปลูกพืชใดได้บ้าง โดยฤดูแล้งนี้เน้นการปลูกพืชใช้น้ำน้อยซึ่งขอความร่วมมือเกษตรกรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้พืชผลเสียหายจากการขาดน้ำ
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า เตรียมลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานแก้ไข บรรเทาวิกฤตภัยแล้ง และการบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนของกรมชลประทานเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะบูรณาการทั้งหน่วยงานในกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานในพื้นที่เพื่อเชื่อมโยงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ
สำหรับ “ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขและบรรเทาวิกฤตภัยแล้ง ปี 2562/63” นี้มีอธิบดีกรมชลประทานเป็นประธาน จะใช้ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน มีหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตาม ประเมินวิเคราะห์แนวโน้มของสถานการณ์ รวมทั้งแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชน สื่อสาร ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ภัยแล้งและแนวทางในการลดผลกระทบจากวิกฤตภัยแล้ง กำหนดแนวทางการปฎิบัติงานเชิงบูรณาการในการแก้ไขและการให้ความช่วยเหลือ ประสานข้อมูล วิเคราะห์สถานการณ์ ประเมินความต้องการและความจำเป็นเพื่อจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรเครื่องมือในการบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้ง ตลอดจนจัดทำรายงานสถานการณ์ รวมทั้งผลการดำเนินการ แก้ไข บรรเทา และการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตภัยแล้งรายงานต่อรมว. เกษตรฯ อย่างต่อเนื่องทุกระยะ