ฝ่ายปกครองประจวบตะครุบพม่า17คนแอบข้ามแดนไทยกลางดึกเตรียมไปขายแรงงานมาเลเซีย
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.วันที่ 23 ธ.ค.62 จากการอำนวยการของ ดร.พัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยสืบทราบว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ว่าจะมีขบวนการค้ามนุษย์ลักลอบนำบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา หลบหนีเข้าเมืองในแนวบริเวณตะเข็บชายแดนไทย – สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในช่องทางธรรมชาติเขตพื้นที่ อ.เมืองประจวบฯ ต่อมาได้รับแจ้งจากสายข่าวชายแดนว่า พบบุคคลต้องสงสัยคล้ายเป็นชาวเมียนมา จำนวนประมาณ 20 คน เดินเท้ามาจากเทือกเขาตะนาวศรี เข้ามาในเขตแดนไทยบริเวณช่องทางธรรมชาติ ชุมนุมมะละกอ ม.5 บ้านหนองเสือ ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงสั่งการให้ จ.อ.แก้ว คงวงศ์ ป้องกันจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วย นายสมฤทธิ์ คำเคลื่อน นายกิตติรัตน์ ส้มแป้น ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดประจวบ ร่วมกับ นายวิโรจน์ ชูแก้ว ปลัดอำเภอรักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองประจวบ นายธนู มณฑาทอง ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองประจวบฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน( อส.)จังหวัด อส.อำเภอเมืองฯ รวม 20 นาย และชุดรักษาความสงบประจำหมู่บ้าน ( ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมประสาน พ.ต.อ.ขวัญชัย ธีระกุล ผกก.สภ.อ่าวน้อย พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ คงทับทิม ,พ.ต.ท.สำราญ ขาวแก้ว รอง ผกก.พ.ต.ท.เกรียงไกร กิ่งสามี สวป. พ.ต.ท.ประยูร โพธิ์ศิริ สว.สส. กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวน้อย ทำการปิดล้อม และซุ่มรอในบริเวณดังกล่าว
ซึ่งต่อมาพบชาวเมียนมาจำนวนหนึ่งตามที่สายแจ้งเดินมข้ามชายแดนมาอยู่ในสวนยางชายป่าจำนวนหลายคนเพื่อรอนายหน้ามารับ และเมื่อกลุ่มชาวเมียนมาร์เห็นเจ้าหน้าที่ต่างก็วิ่งหลบหนีกันไปคนละทิศคนละทางหายเข้าไปในป่ายางท่ามกลางความมืด ซึ่งเบื้องต้นกำลังเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปจับกุมและควบคุมตัวมาได้จำนวน 3 คน หญิง 1 คน ชาย 2 คน คือ นาย มอ แชไข่ อายุ 24 ปี นาง แซน ดวย อายุ 23 ปี และนาย จิง ไง งวง อายุ 16 ปี ทั้งหมด สัญชาติเมียนมา ส่วนที่เหลือได้วิ่งหลบหนีหายไปในความมืด จึงได้จัดกำลังซุ่มจับกุมไว้ตามเส้นทางต่างๆรอบสวนยางอีก 3 ชุด เพื่อรอจับพวกที่หลบหนีที่ยังเหลืออยู่
จากการตรวจค้นไม่พบเอกสารการได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาญาจักร โดยกลุ่มชาวเมียนมายอมรับสารภาพว่าเดินทางมาจากรัฐยะไข่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาทั้งหมดประมาณ 23 คน โดยจ่ายเงินให้กลุ่มนายหน้าพามาคนละ 10 แสนจ๊าด โดยมาแวะพักที่บ้านมูด่อง อำเภอมูด่อง จังหวัดมะริด ซึ่งอยู่ฝั่งประเทศเมียนมาติดกับชายแดนไทยด้านด่านสิงขร ต.คลองวาฬ ก่อนได้เวลาพลบค่ำและเดินเท้าข้ามเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ทางช่องชุมนุมมะละกอ พื้นที่ ต.อ่าวน้อย เพื่อรอขบวนการค้ามนุษย์ที่เป็นนายหน้าอยู่ฝั่งไทยนำรถยนต์มารอรับในจุดที่นัดหมายไว้ซึ่งหากเล็ดลอดผ่านทางช่องทางนี้มาได้ นายหน้าขบวนการค้ามนุษย์ก็จะนำชาวเมียนมาทั้งหมดส่งลงไปทางภาคใต้ เพื่อไปทำงานในประเทศมาเลเซีย หากได้งานดีมีนายจ้างดีแล้วก็จะได้ค่าแรงรายวันคนละประมาณ 1000-3000 บาท จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวทั้ง 3 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวน้อย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย แล้วควบคุมตัวเพื่อรอจับพวกที่ยังหลบซ่อนตัวอยู่ในสวนยาง เพื่อรอผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อมาในเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 24 ธ.ค.62 ในคืนเดียวกัน ฝ่ายปกครองสามารถตามจับกุมตัวชาวเมียนมาที่หลบส่วนตัวอยู่ในสวนยางได้เพิ่ม อีกจำนวน 14 คน แบ่งเป็น ชาย 12 คน หญิง 2 คน รวมจำนวนที่จับได้ทั้งหมดเป็น 17 คน
ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ(นักข่าวบ้านนอก)จังหวัดประจวบฯ