“เฉลิมชัย” สั่งด่วน ให้กรมชลฯ เร่งผันน้ำแม่กลองช่วยลุ่มเจ้าพระยาเพิ่ม
รมว. เฉลิมชัย สั่งการด่วนที่สุดให้กรมชลประทานเพิ่มเครื่องสูบน้ำ ผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองช่วยบรรเทา ค่าความเค็มลุ่มเจ้าพระยา ด้านอธิบดีกรมชลประทานยัน ระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยาวันละ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ถูกสูบไปใช้ปลูกข้าวนาปรัง ล่าสุดปลูกเกือบ 1.4 ล้านไร่แล้ว ชี้ระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาต่ำสุดอย่างไม่เคยเกิดมาก่อน
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้อธิบดีกรมชลประทานเร่งติดตั้ง เครื่องสูบน้ำเพื่อผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองผ่านคลองจระเข้สามพันและคลองท่าสาร-บางปลามาช่วยด้านท้ายลุ่มเจ้าพระยาเพิ่มเนื่องจากในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ค่าความเค็มที่สถานีสูบน้ำต่างๆ อาจเกินกว่าเกณฑ์เฝ้าระวังเป็นบางช่วงเวลา ทั้งนี้แผนบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทานวางไว้จนถึงสิ้นฤดูแล้งกลางเดือนพฤษภาคม 2563 ต่อเนื่องถึงต้นฤดูฝนกลางเดือนกรกฎาคม 2563 หากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงจึงกำชับให้จัดสรรน้ำตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัดเพื่อให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภค-บริโภค รักษาระบบนิเวศน์ และเลี้ยงพืชต่อเนื่องได้
นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมชลประทานเป็นหน่วยงานปฏิบัติซึ่งได้ดำเนินการจัดสรรน้ำตามแผนที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ซึ่งวางแผนบริหารจัดการไว้ แต่การใช้น้ำไม่เป็นไปตามแผนเนื่องจากในลุ่มเจ้าพระยาซึ่งได้แจ้งล่วงหน้าแล้วว่า ไม่มีน้ำสนับสนุนการปลูกข้าวนาปรัง แต่ก็มีการปลูกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้เมื่อระบายมาจากท้ายเขื่อนหลัก 4 เขื่อนพบว่า มีสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าและเครื่องสูบน้ำของประชาชนสูบน้ำไประหว่างทาง ซึ่งได้ย้ำให้กรมชลประทานขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ช่วยเข้ามาดูแลให้เข้มงวดขึ้น
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากการขอความร่วมมือไปยังฝ่ายปกครองและอปท. ทำให้สถานการณ์น้ำน้อยที่ใกล้เข้าขั้นวิกฤติดีขึ้นตามลำดับ ขณะนี้การสูบน้ำจากสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าตามริมแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน และเจ้าพระยาลดลงทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์เพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ ส่วนที่หน้าเขื่อนเจ้าพระยาซึ่งสัปดาห์ที่แล้ว ระดับน้ำลดต่ำลงอยู่ที่ +13.10 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) วันนี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ +13.19 เมตร รทก. แต่ยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเนื่องจากระดับน้ำต่ำกว่าปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่แล้งจัด โดยในปีนั้นระดับน้ำหน้าเขื่อนสูงกว่า +14 เมตร รทก.
นายทองเปลวกล่าวต่อว่า ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาระบายที่อัตรา 70 ลูกบาศก์เมตร (ลบ. ม.) ต่อวินาทีตลอดเวลาเพื่อให้พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างมีน้ำเพียงพอและควบคุมค่าความความให้อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังทั้งเพื่อการผลิตน้ำประปา การเพาะปลูกกล้วยไม้ และไม้ผล โดยในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงอาจทำให้ค่าความเค็มสูงขึ้นเป็นบางห้วงเวลาซึ่งได้สูบน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลอง มาสู่คลองพระยาบันลือที่เชื่อมต่อระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนเพื่อแก้ปัญหา โดยให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำและค่าความเค็มอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการผลิตน้ำประปาและภาคการเกษตร
“ขอย้ำต่อเกษตรกรลุ่มเจ้าพระยาว่า ไม่ให้ปลูกข้าวนาปรัง โดยจากที่ฤดูแล้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ไม่มีแผนให้ปลูกเลย แต่พื้นที่ปลูกมากถึง 1.39 ล้านไร่แล้ว ซึ่งหากเกษตรกรยังคงฝืนปลูก มีความเสี่ยงที่ข้าวจะเสียหายจากภาวะขาดแคลนน้ำได้เนื่องจากกรมชลประทานไม่มีแผนจัดสรรน้ำสนับสนุนการทำนาปรัง สงวนไว้สำหรับการอุปโภค-บริโภค รักษาระบบนิเวศน์ และเลี้ยงพืชต่อเนื่องจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้าเท่านั้น” นายทองเปลวกล่าว