เกษตรฯวางมาตรการเข้ม จำกัดการใช้สารเคมี 3 ชนิด จนกว่าคณะกรรมการวัตถุอันตรายจะแบนพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสอีก 6 เดือนข้างหน้า
โต้สั่งตรวจแล้ว ไม่พบการปนเปื้อนสารเคมีทางการเกษตรในแหล่งน้ำ
ด้านปลัดกระทรวงเกษตรฯ ยันได้รับมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายอย่างเป็นทางการแล้ว สั่งกรมวิชาการเกษตรเดินหน้าปฏิบัติตามประกาศกระทรวงฯ ซึ่งนานาอารยประเทศทำแล้ว ปลอดภัยทั้งต่อเกษตรกรและผู้บริโภค
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงข้อวิพากย์วิจารณ์ว่า มาตรการจำกัดการใช้สารเคมีทางการเกษตรตามประกาศกระทรวงฯ ไม่น่าจะได้ผล โดยนายเฉลิมชัยระบุว่า เป็นมาตรการที่สากลปฏิบัติในการควบคุมการใช้สารเคมีทางการเกษตร โดยส่วนตัวเห็นว่า ไม่ควรจะจำกัดการใช้เฉพาะพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส แต่ควรจำกัดการใช้สารเคมีอีกหลายร้อยชนิดซึ่งมีในตลาดเนื่องจากหากใช้อย่างไม่ถูกต้องหรือใช้ในปริมาณมากเกินไปย่อมเกิดอันตรายได้ทั้งสิ้น ส่วนที่มีการกล่าวว่า พบการปนเปื้อนของสารเคมีทางการเกษตรในแหล่งน้ำธรรมชาติ กระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยหลังเกิดอุทกภัยซึ่งอยู่ระหว่างฤดูการผลิตของเกษตรกร ได้ให้ทั้งกรมวิชาการเกษตรและกรมพัฒนาที่ดินนำน้ำจากแหล่งน้ำในพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมมาตรวจซึ่งไม่พบสารเคมีตกค้าง
นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า มาตรการจำกัดการใช้กำหนดไว้อย่างละเอียดว่า สารเคมี 3 ชนิดใช้ได้กับพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิดเท่านั้น ห้ามใช้ในพื้นที่ต้นน้ำ จำกัดปริมาณการซื้อ ผู้ขายและผู้ฉีดพ่นสารต้องได้รับการอบรมจากกรมวิชาการเกษตร ขอย้ำว่า รัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ ห่วงใยทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค เชื่อว่า ไม่มีใครคิดแสวงหาประโยชน์จากการไม่ยกเลิก 3 สารจึงขอให้เลิกพูดได้แล้ว หากใครคิดเช่นนั้นถือว่า ไม่ใช่คนไทยและไม่สมควรอยู่ในประเทศไทย
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ได้รับหนังสือรับรองมติอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายแล้ว ซึ่งให้ออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดให้วัตถุอันตราย พาราควอตและคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยกำหนดระยะเวลาใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2563 สำหรับวัตถุอันตรายไกลโฟเซตให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 23 พ.ค.2561 รวมทั้งมอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำมาตรการรองรับในการหาสารทดแทนหรือวิธีการอื่นที่เหมาะสมสำหรับวัตถุอันตรายพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส รวมถึงมาตรการในการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และให้นำเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาภายในระยะเวลา 4 เดือนนับจากวันที่มีมติ
นายอนันต์กล่าวว่า ได้สั่งการกรมวิชาการเกษตรเร่งดำเนินตามมติดังกล่าว ส่วนมาตรการจำกัดการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมาอย่างเคร่งครัดเนื่องจากเป็นกฎหมาย ส่วนที่มีข้อกังขาว่า เป็นมาตรการที่ไม่ได้ผลนั้น รมว. เกษตรฯ กำชับให้ดำเนินการอย่างเข้มงวดตามกฎหมายทุกข้อ ไม่มีย่อหย่อน โดยมาตรการจำกัดการใช้สารเคมีทางการเกษตรเป็นมาตรการที่นานาอารยประเทศใช้กันแล้วได้ผลดี สร้างความปลอดภัยทั้งต่อเกษตรกรและผู้บริโภค