แกนนำเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว ประจวบฯ ร้องศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์พรรคเพื่อไทยในปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำ
วันที่ 17 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประธานคณะทำงาน นายเทอดธนัท สีเขียว รองประธานฯ นางสาวเมลิสา มหาพล และคณะทำงานจากศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ / ร้องเรียน พรรคเพื่อไทย นายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสมนึก รุ่งกำจัด อดีตผู้สมัครส.ส.ในพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย และนายดิเรก จอมทอง คณะทำงานนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปยังศูนย์เกษตรมะพร้าวอินทรีย์ ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรับฟังข้อร้องเรียนเรื่อง ความจริงใจของรัฐบาลต่อการแก้ปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำอย่างยั่งยืน มีนายพรชัย เขียวขำ เกษตรกรและอดีตคณะอนุกรรมาธิการเพื่อพิจารณาศึกษาปัญหาเรื่องมะพร้าวและสับปะรด นายพงษ์ศักดิ์ บุตรรักษ์ แกนนำเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวในพื้นที่อำเภอบางสะพานและทับสะแกเข้าร่วมรับฟังแสดงความคิดเห็นกว่า 50 คน
นายพงษ์ศักดิ์ และนายพรชัย กล่าวว่าแม้ราคามะพร้าวในตลาดรับซื้อจะมีราคาสูง แต่ผลผลิตที่ได้กลับไม่มีให้ขาย ตอนนี้กระทรวงพาณิชย์มีการอนุมัติให้นำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศ 3.2 หมื่นตัน แต่ไม่ทราบว่าจะมีการลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมายอีกมากน้อยแค่ไหน และจะมีผลกระทบอะไรตามมาจนกดราคาให้ดิ่งลงอีกหรือเปล่า ตนต่อสู้ติดตามการแก้ปัญหามะพร้าวของรัฐบาลมาตลอด ได้ทำมาแล้วหลายอย่างแต่อยู่ในระบบที่ถูกต้องและกลุ่มตนไม่ฝักใฝ่การเมือง ล่าสุดวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมาตนจัดการประชุมแสดงวิสัยทัศน์ของตัวแทน 4 พรรคการเมืองใหญ่มีผู้ร่วมกว่า 300 คน ครั้งนั้นตนยื่นข้อเรียกร้อง 13 ข้อแต่กว่าจะได้คำตอบก็เกือบ 4 เดือน ว่าไม่สามารถทำได้ทั้งหมด รวมถึงข้อเรียกร้องขอให้ตัวแทนกลุ่มเข้าไปมีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องในคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช อำเภอบางสะพานบ้านตนมี ส.ส.อยู่ในพื้นที่ 1 คน สังกัดพรรคฝ่ายรัฐบาลซึ่งดูแลกระทรวงพาณิชย์ และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็เป็นบ้านของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีกด้วย แต่กลับให้ความช่วยเหลือไม่ได้ พวกเราต่างผิดหวัง ตนจึงต้องมาร้องเรียนกับพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ให้ช่วยเหลือต่อไป
หลังใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ในการเปิดรับฟังปัญหาข้อร้องเรียน นางลดาวัลลิ์ ได้เปิดแถลงข่าวทันทีโดยกล่าวว่า ก่อนการเดินทางมาในวันนี้ตนได้รับทราบปัญหาและข้อเท็จจริงหลายประเด็นจากนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ซึ่งเป็นคนของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และยังเป็นอดีตคณะอนุกรรมาธิการเพื่อพิจารณาศึกษาปัญหาเรื่องมะพร้าวและสับปะรดเช่นเดียวกับนายพรชัย นับจากนี้ตนในฐานะประธานศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์/ร้องเรียน พรรคเพื่อไทย จะรวบรวมข้อมูลที่ได้เข้าสู่การพิจารณาของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เพื่อผลักดันให้มีการตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาทั้งหมดผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทย เบื้องต้นนี้ตนและคณะทำงานได้สรุปแนวทางไว้ 6 ประเด็นที่รัฐบาลควรนำไปพิจารณาปฏิบัติ ได้แก่
1. ก่อนการอนุมัตินำเข้าส่วนราชการและรัฐบาลควรรับฟังข้อมูลจากเกษตรกรอย่างถูกต้องเปิดเผยและครบถ้วนโดยตรงก่อน
2. ควรออกฎระเบียบในการอนุญาตนำเข้าให้ชัดเจน เช่น ใบกำกับการเคลื่อนย้ายและที่จัดเก็บมะพร้าว การสร้างขบวนการตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน และหาวิธีการกรณีต้องพิสูจน์ทราบให้เห็นข้อแตกต่างมะพร้าวไทยและต่างประเทศ
3. ควรพิจารณาทบทวนกรอบและเวลาในการนำเข้ามะพร้าวให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลาตามสภาพข้อเท็จจริงของปริมาณผลผลิต
4. ควรมีมาตรการควบคุมการนำเข้าหัวกะทิแช่แข็งจากต่างประเทศที่นำมาแปรรูปเป็นน้ำกะทิบรรจุกล่อง ทั้งคุณภาพ จำนวน และการใช้เครื่องหมายการค้าแสดงแหล่งต้นกำเนิดให้ชัดเจน
5.ควรมีข้อตกลงในการกำหนดราคากลาง ขั้นต่ำผลละ 15 บาท โดยแยกคิดมาจากต้นทุน 8 บาท บวกกับราคาค่าครองชีพ 7 บาท
6. รัฐบาลควรยกระดับพืชมะพร้าวให้เป็นพืชเศรษฐกิจเช่นเดียวกับ อ้อย ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์ม เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ
ในช่วงท้าย นางลดาวัลลิ์ กล่าวย้ำว่า “ ทุกวันนี้ราคาขายมะพร้าวจะมีทางล้งและโรงงานเป็นผู้กำหนดราคาซื้อ ทั้งที่ความเป็นจริง เกษตรกรชาวสวนมะพร้าวซึ่งเป็นผู้ผลิตควรมีส่วนในการกำหนดราคาขายด้วย การรวมกลุ่มในรูปแบบสหกรณ์หรือวิสาหกิจชุมชนเพื่อสร้างกำลังต่อรองควรนำมาพิจารณาดำเนินการ ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ตนรวมทั้ง นายวิชิต นายพรเทพ ซึ่งอยู่ในพื้นที่และทีมงานพรรคเพื่อไทย จะผลักดันอย่างใกล้ชิดต่อไป ”