ชวนเที่ยวทุ่งทานตะวัน ชมสวนอินทผาลัม รับลมหนาว..ที่บ้านชอนสารเดช

เป็นที่รู้กันว่า “ดอกทานตะวัน” จะเริ่มออกดอกบานเมื่อเข้าสู่หน้าหนาวในช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคม  ซึ่งทุ่งทานตะวันใน จ.ลพบุรี นั้นมีอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีขนาดพื้นที่แตกต่างกันไป อีกทั้งยังบานไม่พร้อมกัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการปลูก  ณ วันนี้ “ทุ่งทานตะวันบ้านชอนสารเดช” อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี ออกดอกรับลมหนาว บานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งรอรับนักท่องเที่ยว  ยิ่งเวลาที่ดอกทานตะวันบานพร้อมกันในพื้นที่กว้างใหญ่ยิ่งสวยงามอลังการ บรรยากาศไม่แพ้ทุ่งดอกไม้ในต่างประเทศเลย  ชวนให้มาถ่ายรูปมากๆ

ดอกทานตะวัน ปกติจะบานเต็มที่ 65 วัน หลังจากลงเมล็ดและจะบานนาน 7-15 วัน หลังจากนั้นก็จะเริ่มเหี่ยวเฉา หากนักท่องเที่ยวเดินทางมาต้องวางแผนหรือสอบถามก่อน  เพราะบางทุ่งอาจตัดดอกไปแล้ว หรือไม่ก็เหี่ยวเฉาไม่สวยเหมือนอย่างที่ตั้งใจไว้ โดยใน จ. ลพบุรีนั้น ทุ่งทานตะวันจะปลูกกันมาก ในหลายอำเภอ  และธรรมชาติของดอกทานตะวัน เวลาบานจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกสู้กับแสงแดด  และพอเวลาช่วงบ่ายๆเย็นๆ ก็จะหันไปทางทิศตะวันตก แนะนำว่าควรมาในช่วงเช้าอากาศจะดี ไม่ร้อนจนเกินไป นอกจากที่บ้านชอนสารเดช อ.หนองม่วงแล้ว ยังมีทุ่งทานตะวันบานในอีกหลายๆที่ ซึ่งสามารถสอบถามรายอะเอียดทุ่งดอกทานตะวัน จ.ลพบุรี ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรี โทรศัพท์ 036-770-096-7 และเฟซบุ๊ก TAT Lopburi

อีกจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เป็นสวนอินทผาลัมชอนสารเดช อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี  ที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสวนอินทผาลัมอินทรีย์  ชิม ช๊อปอินทผาลัมผลสุกแช่ฟีซ หวานนุ่ม ละมุนลิ้น  ที่มีคุณครองจักร  งามมีศรี เป็นเจ้าของสวน และหากพูดถึง อินทผาลัม เป็นผลไม้ที่มีรสหวานและอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญหลายชนิด เช่น วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ที่เชื่อว่าอาจมีฤทธิ์ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็ง และรักษาโรคบางชนิดได้ ถือเป็นผลไม้มหัศจรรย์ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์

สวนอินทผาลัมชอนสารเดชแห่งนี้ มีพื้นที่ 58 ไร่ ปลูกอินทผาลัม  20 ไร่ จำนวน 500 ต้น   เริ่มต้นด้วยเจ้าของ ได้นำเมล็ดที่ซื้อผลมาจากต่างประเทศเพื่อรับประทาน มาปลูกในกระถางต้นชวนชม ปรากฏว่าผ่านไปเดือนกว่ามีการงอกและเจริญเติบโตดี  เลยขุดเอาไปลงในแปลง  ผ่านไปปีกว่าต้นอินทผาลัมสูงท่วมหัวก็เลยสนใจ   เพราะก่อนหน้านั้นปลูกขนุน มะม่วง มะยงชิด ปรากฏว่าตายหมด แต่อินทผาลัมกลับโตได้ดีก็เลยหันมาสนใจและศึกษาเรื่องการปลูกอินทผาลัม จนกระทั่งมารู้ว่าการปลูกจากเมล็ดนั้นค่อนข้างใช้เวลานานกว่าจะได้ผลผลิต    เลยตัดสินใจสั่งต้นพันธุ์เนื้อเยื่อนำเข้าจากต่างประเทศมาปลูก และก็ไม่ผิดหวังเจริญเติบโตได้ดีและมีรสชาติดีกว่าที่ปลูกในต่างประเทศ จากนั้นจึงปลูกเรื่อยมาจนปัจจุบัน

สำหรับสวนอินทผาลัมชอนสารเดช  ตำบลชอนสารเดช  อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอย่างครบวงจร โดยเปิดให้ประชาชนที่สนใจเดินทางเข้าเที่ยวชมสวนอิทผาลัมทุกวัน  สำหรับผู้สนใจจะได้ชมวิธีการเพาะปลูกอิทผาลัมในพื้นที่ภาคกลาง ชมนกยูงอินเดีย นกแก้ว ชิมอินทผาลัมสดๆ จากต้น จิบชาดอกอินทผาลัมอันหอมหวาน ถ่ายภาพบรรยากาศร่มรื่นสวยงามภายในสวน และซื้อกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วย

ใครที่สนใจอยากมาเที่ยวชม หรือ ซื้อพันธุ์ และซื้อผลอินทผาลัม ติดต่อได้ที่ สวนอินทผาลัมบ้านชอนสารเดช 96/1 หมู่ 4 ถนน ลบ.1010 ชอนสารเดช หนองม่วง ลพบุรี 15170 โทร. 085- 909-7445 , 064-536-5664 , 099-275-6444

เดินทางมาอีกแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.ลพบุรี ที่วัดเขาวงพระจันทร์  ตั้งอยู่ที่ ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ห่างจากตัวเมืองลพบุรีประมาณ 28 กิโลเมตร เป็นยอดเขาสูงที่สุดในจังหวัดลพบุรี มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 650 เมตร โดยการเดินทางขึ้นไปยังยอดเขาวงพระจันทร์จะต้องเดินตามบันไดขึ้นไปสู่ยอดเขา ซึ่งมีทั้งหมด 3,790 ขั้น (ความยาว 1,680 เมตร) และยังมีบันไดขึ้นต่อไปได้อีก 180 ขั้น รวมแล้วมีบันไดขึ้นเขาทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 4,000 ขั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมงแต่ในบางช่วงระหว่างเดินขึ้นไปจะมีศาลาสำหรับแวะพักให้หายเหนื่อย และในจุดแวะพักบางจุดจะมีร้านค้าบริการด้วย และการมาวัดเขาวงพระจันทร์ จุดไฮไลท์เด่น คือ พระพุทธรูปองค์สีทอง ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางภูเขาสีเขียว มองเห็นเป็นเส้นตรงขนานไปตามถนนสวยงามมาก พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทองนี้ มีชื่อว่า พระพุทธโชค หรือ “พระเชียงแสน” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยเชียงแสน มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดลพบุรี และใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของประเทศไทย (รองจากพระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ) “พระพุทธโชค” ประดิษฐานอยู่บริเวณริมเชิงเขาวงพระจันทร์ โดยแรกเริ่มโครงการก่อสร้างจะใช้ชื่อว่า “พระเชียงแสน” องค์พระก่อด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดหน้าตักกว้าง 45 เมตร สูง 75 เมตร เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2553 ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างองค์พระ 8 ปี (โดยประมาณ)

ในปัจจุบัน “พระเชียงแสน” ได้ทำการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ เมื่อต้นปี พ.ศ. 2561 และมีการจัดพิธีถวายพระนามใหม่ว่า “พระพุทธโชค” เมื่อวันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561 และมีพิธีสมโภชพระพุทธโชค เมื่อวันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2561 โดยสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นองค์ประธาน พร้อมด้วยกรรมการมหาเถรสมาคมรูปอื่น ตลอดจนพระมหาเถระที่มีชื่อเสียงร่วมประกอบพิธีอีกเป็นจำนวนมาก

ในส่วนบริเวณพื้นที่รอบๆองค์พระพุทธโชค ด้านหน้าเป็นลานกว้างประกอบไปด้วย บันไดขึ้นสู่องค์พระ, ศาลาธรรมขนาดใหญ่ จำนวน 2 หลัง, จุดชมวิว, อนุสรณ์หนุมาน ฯลฯ ด้านหลังเป็นพื้นที่จอดรถ, บันไดขึ้นสู่ด้านหลังองค์พระ และยังมีพื้นที่ในบางจุดยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ

ใครที่มาลพบุรี และอยากมองหาที่เที่ยวใหม่ๆ ก็มาตามแต่ละสถานที่ที่แนะนำได้เลย รับรองได้ว่าจะได้เห็นลพบุรีในอีกมุมมองที่ไม่เคยเห็น เพราะลพบุรี ไม่ได้มีดีแแค่ทุ่งทานตะวัน แต่เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม เป็นจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ ที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี