“อลงกรณ์” เดินหน้าแก้ปัญหาประมงดัน3โครงการเร่งด่วน “สินเชื่อ-เรือออกนอกระบบ-แรงงานขาดแคลน” คาดจบธันวาคม เตรียมประชุมร่วมสมาคมประมงและทุกหน่วยงาน12ธ.ค.

“อลงกรณ์” เดินหน้าแก้ปัญหาประมงดัน3โครงการเร่งด่วน “สินเชื่อ-เรือออกนอกระบบ-แรงงานขาดแคลน”

คาดจบธันวาคม เตรียมประชุมร่วมสมาคมประมงและทุกหน่วยงาน12ธ.ค.

 

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรณีของชาวประมง22จังหวัดที่ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดผ่านมาว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงเป็นวาระเร่งด่วน โดยเฉพาะ3เรื่องใหญ่ คือ โครงการสินเชื่อแก้ไขปัญหาขาดสภาพคล่อง และโครงการนำเรือออกนอกระบบวงเงินเกือบ2หมื่นล้านเบื้องต้น กระทรวงเกษตรฯได้ส่งถึงคณะรัฐมนตรีแล้วรวมทั้งการแก้ไขปัญหาแรงงานประมงขาดแคลน รอคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการ การทำงานของคนต่างด้าวที่มีรัฐมนตรีแรงงานเป็นประธานประชุมเห็นชอบภายในเดือนธันวาคมนี้

ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาชาวประมงอย่างเป็นระบบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้ที่ปรึกษารัฐมนตรีและกรมประมงจัดประชุมร่วมกับสมาคมการประมงทุกประเภททุกจังหวัดและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงเดือนพฤศจิกายน  เพื่อแก้ไขปัญหาจนมีความคืบหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญ ภายใต้กลไกคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทย ร่วมกับคณะอนุกรรมการ 5 คณะ ประกอบด้วยคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงพื้นบ้าน คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงพาณิชย์ และการประมงนอกน่านน้ำไทย คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงการเพาะเลี้ยง คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพผลิตผลผละผลิตภัณฑ์และการพาณิชย์ และคณะอนุกรรมการยก ร่างพ.ร.บ.จัดตั้งกองทุนพัฒนาการประมง และ ร่างพ.ร.บ.จัดตั้งสภาการประมงแห่งชาติให้แล้วเสร็จภายใน90วัน หรือภายในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ นอกจากนี้กรมประมงยังได้แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขกฎหมายประมง ประกอบไปด้วยตัวแทนสมาคมประมงทุกประเภทและหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาการประมงของไทยทั้งระบบแบบครบวงจร รวมทั้งยังประสานการทำงานกับคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ของสภาผู้แทนราษฎรอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ทุกฝ่ายทุ่มเทความพยายามทำงานแทบไม่มีวันหยุดเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับชาวประมงของเราให้ลุล่วงเร็วที่สุดภายใต้อำนาจทางการบริหารของรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี แต่เรื่องการแก้ไขปัญหากฎหมายไม่สามารถทำได้เร็วนักเพราะต้องผ่านขั้นตอนรัฐบาลและรัฐสภา ทั้งยังต้องอยู่คำนึงถึงกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น ไอยูยูสำหรับข้อเรียกร้องที่เกี่ยวกับกระทรวงแรงงานกรณีปัญหาการจ่ายเงินเดือนลูกเรือประมงผ่านเอทีเอ็ม และกระทรวงการคลังกรณีFleet Card ทางกรมประมงจะช่วยประสานงานกับหน่วยงานดังกล่าวต่อไป ส่วนข้อเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการเยียวยาผลกระทบจากกฎหมายประมงตั้งแต่ปี2558จนถึงปัจจุบันนั้น จะขอความชัดเจนจากสมาคมประมงในที่ประชุมคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพประมงไทยในวันที่12ธ.ค.นี้ ที่กรมประมงว่าควรเป็นคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวงรวมทั้งพิจารณาข้อเรียกร้องต่างๆด้วย

ทั้งนี้ในส่วนข้อเรียกร้องของสมาคมประมงที่เกี่ยวข้องกับกรมประมงโดยขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการประมงทั้งหมดหยุดออกกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ คำสั่งต่าง ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของชาวประมง มาเพิ่มเติมขึ้นอีก (ยกเว้นการออก กฎ ระเบียบ ประกาศ คำสั่งที่ผ่อนคลายปัญหาให้กับชาวประมง)ปัจจุบันไม่ได้มีการออกกฎหมายที่สร้างภาระแก่ชาวประมงเพิ่มเติม มีแต่การออกกฎกระทรวงที่ส่งเสริมต่อการประกอบอาชีพของชาวประมง

ส่วนกรณีขอให้มีการเสนอแก้ไขกฎหมายพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยเร่งด่วนในช่วงที่มีการประชุมสภานิติบัญญัตินี้: ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาปรังปรุงแก้ไขกฎหมายประมงของคณะทำงานร่วมทุกภาคส่วนของกรมประมง ประกอบด้วย ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับประมงพื้นบ้าน จำนวน 3 มาตรา และข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับประมงพาณิชย์ จำนวน 15 มาตรา ทั้งนี้การแก้ไขกฎหมายต้องอยู่ภายใต้กรอบนโยบายต่อต้านไอยูยู(IUU fishing combating policy)และนโยบายของรัฐบาลซึ่งต้องผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีและกระบวนการนิติบัญญัติของรัฐสภา

ขณะที่การดำเนินการการซื้อเรือประมงออกนอกระบบคืนโดยเร็ว โดยขอให้รัฐบาลมีการตั้งงบประมาณจำนวน 1 หมื่นล้าน ในปีงบประมาณ 2563 ในการที่จะนำเรือประมงออกนอกระบบนั้น กรมประมงได้เร่งรัดดำเนินการนำเรือประมงออกนอกระบบตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการดำเนินการโครงการการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืน ระยะที่ 1 จำนวน 305 ลำ โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ปีปีงบประมาณ 2562 นำเรือออกนอกระบบจำนวน 252 ลำ งบประมาณ 469,603,900  2.กรมประมงได้จัดทำโครงการการนำเรือประมงออกนอกระบบ ระยะที่ 2 โดยนำเรือประมงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐและหรือมีความประสงค์จะเลิกอาชีพทำการประมง จำนวน 2,768 ลำ งบประมาณ7,143,847,900 บาท ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแล้ว

ส่วนการช่วยเหลือชาวประมงในโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับชาวประมงโดยเร่งด่วน ภายในเดือนธันวาคม 2562 นั้นกรมประมงจัดทำโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องประมงพื้นบ้านประมงพาณิชย์และประมงนอกน่านน้ำ วงเงินสินเชื่อรวม 10,300 ล้านบาท

ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแล้วขณะที่เรื่องเร่งรัดการอนุญาตให้ใช้กฎหมาย มาตรา 83 แห่ง พรก.การประมง พ.ศ. 2558 ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมงโดยเร่งด่วน ภายในเดือนธันวาคม 2562 นี้ กรมประมงมีมติให้ใช้มาตรา 83 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคประมงโดยเสนอต่อกระทรวงแรงงานในเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ต่อมากระทรวงแรงงานได้ให้ความเห็นชอบเมื่อเดือนพฤศจิกายนและให้กรมประมงประชุมขอความเห็นชอบจากหน่วยงานกระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานทางด้านความมั่นคง (กองทัพเรือ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ)และได้ยืนยันผลการประชุมส่งถึงกระทรวงแรงงานเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.)ซึ่งมีรมว.แรงงานเป็นประธานเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในเดือนธันวาคมนี้

นายองกรณ์บอกด้วยว่า ในเรื่องเรือประมงที่มีขนาดไม่เกิน 30 ตันกรอส ไม่ควรมีนโยบายให้ติด VMS เช่น การชักชวนให้เรือประมงขนาดต่ำกว่า 30 ตันกรอส ทดลองติด VMS ฟรียั้นกรมประมงยังไม่มีนโยบายในการติดตั้งหรือทดลองใช้แต่อย่างใด ส่วนเรือขนาด30ตันกรอสขึ้นไปได้ออกกฎกระทรวงผ่อนปรน4กรณีตามที่สมาคมประมงเสนอก่อนหน้านี้แล้วส่วนการห้ามนำเข้าสัตว์น้ำเข้ามาในประเทศไม่สามารถกระทำได้เพราะประเทศไทยต้องปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีต่อองค์การการค้าโลก(WTO)และเอฟทีเอ.ทั้งทวิภาคีและพหุภาคี โดยกรมประมงได้สั่งการด่านตรวจสัตว์น้ำทั่วประเทศ จำนวน 27 แห่งทำการตรวจสอบสินค้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำให้ถูกต้องตามใบอนุญาต และ ตามมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัดเพื่อดูแลผลประโยชน์ของชาวประมงและราคาสัตว์น้ำในประเทศทั้งนี้ต้องไม่เข้าข่ายการกีดกันทางการค้าจนอาจถูกร้องเรียนหรือตอบโต้ทางการค้า จากมาตรการการตรวจตราและความเข้มงวดในการนำเข้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศทำให้มีบางจังหวัดที่เป็นด่านนำเข้าสัตว์น้ำถึงกับมีหนังสือจากผู้ว่าราชการจังหวัดขอให้กรมประมงผ่อนปรน

ส่วนการเพิ่มวันทำการประมงให้กับพี่น้องชาวประมงทั้งประเทศโดยเร่งด่วน เพราะทำให้เกิดปัญหาการประกอบอาชีพขาดทุนมา 4 – 5 ปีแล้ว เนื่องจากมีการกำหนดให้ทำการประมงได้ไม่ทั้งปี แต่ต้องมีรายจ่ายค่าแรงงานตลอดทั้งปี
ในปีการประมง 2562 มีเรือประมงบางส่วนที่ได้รับการจัดสรรปริมาณสัตว์น้ำไว้แล้ว แต่ไม่ได้ออกทำการประมง ทำให้มีปริมาณสัตว์น้ำคงเหลือที่ไม่ได้จับขึ้นมาใช้ประโยชน์ ซึ่งอาจนำสัตว์น้ำกลุ่มนี้มาจัดสรรเพื่อเพิ่มจำนวนวันทำการประมงได้ ขณะนี้กรมประมงกำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลปริมาณสัตว์น้ำคงเหลือ เพื่อนำมาจัดสรรเพิ่มวันทำการประมงให้กับเรือประมงในปีการประมง 2562

 

You May Have Missed!

1 Minute
กิจกรรมเพื่อสังคม
ไม่สนคำ ว่าทำบุญเอาหน้า…เสี่ยเดย์ นักบุญเจ้าเดิมช่วยการศึกษาอีกกว่า 3 ล้าน
0 Minutes
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร จัดงานวันสถาปนาครบรอบ 53 ปี ชูแนวคิด ทุ่มเทอย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างประสบการณ์สุขภาพที่เหนือชั้น เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพิ่มการยอมรับและมั่นใจกับผู้มารับบริการ
0 Minutes
โรงพยาบาล
สำนักงานเลขานุการ (กลุ่มงานนิติการ) สำนักการแพทย์ ประชุมคณะทำงานพิจารณาปรับปรุงแก้ไขระเบียบกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ครั้งที่ 3/2567
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
วว. ผนึกกำลัง KUST ประเทศจีน จัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีนานาชาติ มุ่งใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม จัดการความท้าทายด้านภัยพิบัติ/เหตุฉุกเฉิน