ชป.ชี้แจงการก่อสร้างประตูระบายน้ำ อ่างเก็บน้ำห้วยตาจูก่อ พร้อมเร่งแก้ไขใช้งานได้แล้ว
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าจากกรณีราษฎรในเขตพื้นที่ตำบลห้วยจันทร์ และตำบลโนนสูง อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างประตูระบายน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยตาจูก่อ ที่ก่อสร้างตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2562 ยังไม่แล้วเสร็จ บานประตูยังไม่ติดตั้ง เป็นเหตุทำให้น้ำระบายทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ นั้นล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่าอ่างเก็บน้ำห้วยตาจู เป็นโครงการชลประทานขนาดกลาง มีขนาดความจุ 22.28 ล้านลูกบาศก์เมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ซึ่งในปี 2560 – 2561 ที่ผ่านมา เกิดลาดทำนบดินสไลด์เสียหายเป็นบริเวณกว้าง กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 8 จึงได้มีแผนงานปรับปรุงอ่างเก็บน้ำห้วยตาจู โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณปี พ.ศ.2561 (เพิ่มเติม) เพื่อดำเนินการปรับปรุงลาดทำนบดิน และปรับปรุงทางระบายน้ำล้น ให้มีช่องระบายน้ำพร้อมติดตั้งประตูควบคุมน้ำ ขนาด 2.2×2 ม.จำนวน 2 ช่อง ที่ระดับต่ำกว่าระดับเก็บกัก 4.30 เมตร เพื่อควบคุมการระบายที่เกินความจุ
ทั้งนี้ กรมชลประทาน โดยสำนักงานพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลางที่ 8 ได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงทำนบดิน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 แล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2562 ซึ่งหลังจากการปรับปรุงทำนบดินเสร็จ ในปีแรกควรเก็บกักน้ำไม่เกินร้อยละ 70 ของความจุอ่างเก็บน้ำ ส่วนการปรับปรุงทางระบายน้ำล้น นั้น สำนักงานชลประทานที่ 8 ได้ดำเนินการก่อสร้างในภาพรวมแล้วเสร็จตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา
เนื่องจากงานติดตั้งประตูระบายน้ำพร้อมเครื่องยก ได้ดำเนินการแล้วเสร็จก่อนเกิดเหตุสาธารณภัยในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2562 ประกอบกับสภาพน้ำฝนและน้ำท่าในช่วงเดือนกันยายนจนถึงเดือนตุลาคมมีปริมาณมาก ทั้งยังได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “โพดุล” จึงส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำ เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงระดับทางระบายน้ำล้นที่ตัวอาคาร ส่งผลให้ประตูระบายน้ำเกิดความชำรุด จึงมีความจำเป็นต้องถอดบานประตูน้ำออกชั่วคราว และเนื่องจากระดับน้ำในอ่างฯ ยังคงมีปริมาณเกินกว่าระดับเก็บกัก จึงจำเป็นต้องทำการระบายน้ำออกเพื่อรักษาระดับน้ำไว้ที่ร้อยละ 70 ของความจุอ่างเก็บน้ำ ในปีแรกหลังจากปรับปรุงแล้วเสร็จตามข้อแนะนำจากที่ปรึกษา เบื้องต้น โครงการก่อสร้างสำนักงานชลประทานที่ 8 จึงได้ดำเนินการระบายน้ำผ่านทางท่อระบายน้ำปากคลองแทนการระบายน้ำผ่านทางระบายน้ำล้น และได้ทำการติดตั้งบานระบายใหม่อีกครั้งในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการติดตั้งบานระบายแล้วเสร็จพร้อมใช้งานได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว