นายอำเภอตรอน ขอเชิญเที่ยวงานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติฯและพิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารสายน้ำประจำปี 2562

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 นายสกุลไชย จูมทอง นายอำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ด้วยอำเภอตรอนพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พ่อค้าและประชาชนได้ร่วมกันจัดงานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติฯและพิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารสายน้ำประจำปี 2562 ขึ้นในระหว่างวันที่ 3 ถึง 5 ธันวาคม 2562 เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ที่พระองค์ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อประโยชน์สุขของราษฎรอย่างล้นพ้น และที่สำคัญคือการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการเกษตรกรรม ซึ่งประโยชน์แก่กลุ่มเกษตรกรในการเพาะปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารให้บังเกิดความอุดมสมบูรณ์และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวอีกทั้ง เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวรักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามไว้สืบไป

นายสกุลไชย จูมทอง นายอำเภอตรอน เผยอีกว่า ด้วยนะวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร พสกนิกรชาวอำเภอตรอนประกอบด้วยข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนทุกหมู่เหล่าล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ประกอบกับอำเภอตรอนมีแม่น้ำน่านไหลผ่านซึ่งเป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงประชาชนชาวอำเภอตรอนมาโดยตลอด สมควรที่จะถือโอกาสวันสำคัญนี้ได้น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร และเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัว อีกทั้งขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้ำ ซึ่งในอดีตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จมาเมืองตรอนตรีสินธุ์ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมพุทธศักราช 2444 ทรงพอใจในความจงรักภักดีของชาวอำเภอตรอนเป็นอันมาก แม้ว่าเวลา แห่งความประทับใจนั้นจะได้ล่วงเลยมาเป็นระยะเวลานาน แล้วแต่พสกนิกรชาวอำเภอตรอนยังคงมีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์เสมอมา จึงถือโอกาสนี้ร่วมกันจัดงานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติและพิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้ำปี 2562 ขึ้น รู้จักครั้งแรกในปี พ. ศ. 2541 และสืบเนื่องตลอดมาจนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 21

เอนก ธรรมใจ
รายงาน