พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. แถลงข่าว บก.สปพ.191 รวบสาวไทยนำยาไอซ์จะส่งประเทศญี่ปุ่น คาสนามบิน
วันจันทร์ที่ 18 พ.ย.2562 เวลา 17.00 น. : พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภานพ รธนัชชากุล รอง ผบก.บก.สปพ., พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รอง ผบก.บก.สปพ., พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ รอง ผกก.งานสายตรวจ, พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง สว.งานสายตรวจ 3 กก.สายตรวจ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับกุม บก.สปพ. ร่วมแถลงข่าว บก.สปพ.จับกุมสาวไทยนำยาไอซ์จะส่งประเทศญี่ปุ่น คาสนามบิน ณ บก.สปพ. ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. เปอดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับกุม บก.สปพ.รวบสาวไทยนำยาไอซ์จะส่งประเทศญี่ปุ่น คาสนามบินโดยสามารถจับกุมได้ที่อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานตอนเมือง ถนนวิภาวดี แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา 3 คน ได้แก่
1.นางสาวภัทราภรณ์หรือใหม่ สาวะโชติอายุ 33 ปี สัญชาติไทย
2.นายมนัญชัยหรือหมอก โชติธนาวิวัฒน์ อายุ 43 ปี สัญชาติไทย
3.นางมณีพลอยไพรินหรือนา โชติธนาวิวัฒน์อายุ “44 ปี สัญชาติไทย
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายและ พยายามส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติตให้โทษประเภท 1 (ไอซ์บรรจุในถุงพลาสติกใส หุ้มด้วยกระดาษก็อปบี้สีน้ำเงิน ซุกซ่อนอยู่ภายในกระป๋องปลากระป้อง 1 ถุง/กระป๋อง จำนวน 10 กระป๋อง (พบในกระเป๋าเดินทางใบที่ผู้ต้องหานำไปขึ้นเครื่อง) น้ำหนักรวม 1.000 กรัม ไม่รวมกระปอง)
โดยก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 3 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ผ่านทางเพจ “นักสืบพระนคร” ว่ามีหญิงไทย มีพฤติการณ์ในการส่งยาเสพติดออกนอกประเทศ เจ้าหน้าที่ ตำรวจงานสายตรวจ 3 จึงไต้สืบสวนหาข่าว จนได้ทราบว่าคนหญิงดังกล่าวชื่อนางสาวภัทรากรณ์ หรือใหม่ สาวะโชติ อายุ 33 ปี (ทราบชื่อภายหลัง) มีพฤติการณ์ในการสยาเสพติดไปต่างประเทศจริง จึงได้ติดตามดูพฤติการณ์
จนกระทั่งวันที่ 16 พฤศจิกายน 2562 พบเห็นนางสาวใหม่ออกจากวุฒากาศ 43 และไปพบกับนายมญชัยหรือหมอก โชติธนาวิวัฒน์ อายุ 43 ปี ที่ห้องพักรายวันย่านห้วยขวาง ต่อมาได้ออกเดินทางไปสนามบินดอนเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส., ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าดูพฤติการณ์ เมื่อผู้ต้องหาเข้ามาภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินดอนเมือง เจ้าหนัาที่ตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อขอทำการตรจค้นกระเป๋าและได้ทำการเชิญตัว ผู้ต้องหาพร้อมนายมนัญชัยหรือหมอก โชติธนาวิวัฒน์ และนางมณีพลอยไพรินหรือนา โชติธนาวิวัฒน์ ไปทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเกท 1 (ไอซั) บรรจุในถุงพลาสติกใส หุ้มด้วยกระดาษก็อปบี้สีน้ำเงิน ซุกซ่อนอยู่ภายในกระป้องปลากระป๋อง 1 ถุง/กระป้อง จำนวน 10 กระป๋อง (พบในกระเป๋าเดินทางใบที่ผู้ต้องหานำไปขึ้นเครื่อง) น้ำหนักรวม 1,000 กรัม (ไม่รวมกระป๋อง) และผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การรับสารภาพ ว่าจะนำยาเสพติดส่งออกไปนอกประเทศจริง ได้รับค่าจ้าง 50,000 บาท ซึ่งยาเสพติดดังกล่าวได้รับการว่างจ้างจากหญิงไทยที่อาศัยในต่างประเทศ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพว่า เตรียมนำยาเสพติดส่งออกไปนอกประเทศจริง โดยได้รับการว่าจ้างจากหญิงไทยที่อาศัยต่างประเทศ และแบ่งหน้าที่กันทำ โดยนายมนัญชัย จะไปรับยาเสพติดจากผู้ร่วมขบวนการคนหนึ่ง ก่อนจะนำยาเสพติดมาเก็บไว้ที่โรงแรม แล้วนัดหมายให้ น.ส.ภัทราภรณ์ มารับยาเสพติด และแจ้งให้หญิงไทยที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างให้ทราบ จากนั้นเมื่อส่งยาเสพติดได้เรียบร้อยแล้วจะโอนเงินจำนวน 20,000 บาท เข้าบัญชีของนางมณีพลอยไพริน และนายมนัญชัย ส่วน น.ส.ภัทราภรณ์ ได้ค่าจ้าง 50,000 บาท ทำลักษณะนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ก็มาถูกจับ
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และพยายามส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เพื่อจำหน่าย” ต้องระวางสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต ก่อนขยายผลจับกุมผู้ที่ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป
หากประชาชนท่านใด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด เกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด หรือสิ่งของผิดกฎหมาย โซเชียลมีเดีย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจและ
ปฏิบัติการพิเศษ สายด่วน 191, เพจนักสืบพระนคร, เพจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ
ธวัชชัย เฟื่องอนันต์ รายงาน