“เรืองไกร” จิกไม่ปล่อย ระบุ วันนี้จะได้รับผลตรวจสอบการครอบครองที่ดินรัฐของ “ปารีณา” จากส.ป.ก. และกรมป่าไม้เพิ่มเติม เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลของป.ป.ช.

พบข้อมูลน่าสงสัย อ้างนายทวี​ ไกรคุปต์​ บิดาครอบครองที่ดินแปลงนี้ปี 2589 แต่นายทวีเกิดปี 2482 ตามเวลาที่ระบุ​ นายทวีอายุเพียง 7 ปีเท่านั้น​

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการ​วิสามัญ​พิจารณา​พระราช​บัญญัติ​งบประมาณ​รายจ่าย​ ประจำปีงบประมาณ​ 2563​ กล่าวถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงการตรวจสอบข้อเท็จจริงการครอบครองที่ดินฟาร์มไก่ เขาสนฟาร์ม หมู่ที่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรีของน.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐว่า อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน โดยครอบครองไม่เกิน 500 ไร่และไม่ได้บุกรุกพื้นที่ป่าว่า ได้ขอเอกสารการตรวจสอบเพิ่มเติมจากสำนักงานปฏิรูปเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) และกรมป่าไม้ซึ่งคาดว่า จะได้รับในวันนี้ (18 พ.ย. 62) ทั้งนี้ต้องการทราบผลว่า น.ส.ปารีณาครอบครองมาตั้งแต่ปีใด ได้มาโดยชอบจริงหรือไม่ จากนั้นจะนำมาเชื่อมโยงกับข้อมูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่น.ส. ปารีณายื่นบัญชีทรัพย์สินว่า ครอบครองที่ดินลำดับที่ 19-76 รวม 58 แปลง แสดงมูลค่าโดยรวม 200,000 บาท คิด​เป็น​ไร่ละ 117 บาทหรือตารางวาละ 29 สตางค์ ซึ่งน.ส.ปารีณาชี้แจงว่า การครอบครองที่ดินผืนนี้ได้จ่ายภาษี ภบท.5 มาตลอด โดยระบุหมายเลขแต่ละแปลงแตกต่างกันไปเช่นลำดับที่ 19 หมายเลข7/49 และลำดับที่ 20 หมายเลข 7/49 ซึ่ง น.ส.ปารีณาได้ลงหมายเลขพื้นที่แต่ละแปลงไว้เหมือนกันหมด รวมเนื้อที่ 1,706 ไร่ 1 งาน 50 ตารางวา

นายเรืองไกร กล่าวว่า ยื่นเรื่องของให้คณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบเนื่องจากสงสัยว่าเหตุใด น.ส.​ปารีณาจึงนำที่ดินดังกล่าวไปแจ้งแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อสำนัก​งาน​คณะกรรมการ​ป้องกัน​และ​ปราบปราม​การ​ทุจริต​แห่งชาติ​ (ป.ป.ช.) ทั้งที่เป็นที่ดิน ส.ป.ก. และครอบครองเกิน 500 ไร่ เข้าข่ายการยึดคืนตามคำสั่งคสช.ที่ 36/2559 มาตรา 44 ซึ่งร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่กำกับดูแลส.ป.ก. ต้องตรวจสอบอย่างโปร่งใส อีกทั้งหากพบว่า มีบางส่วนบุกรุกพื้นที่ป่า นายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน

ทั้งนี้นายเรืองไกรได้ขอแผนที่อย่างเป็นทางการจากส.ป.ก. และกรมป่าไม้เพื่อนำมาเทียบเคียงกับแผนที่ที่ได้รับเป็นข้อมูลเบื้องต้นและภาพถ่ายทางอากาศปี 2545 ซึ่งพบอาคารเลี้ยงไก่เพียง 2 หลัง แต่จากกูเกิลแมปล่าสุด มีอาคารเลี้ยงไก่ถึง 8 หลัง เมื่อสอบประเภทที่ดินพบว่า อาคารเลี้ยงไก่ 7 หลังอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2554 และ 1 หลังอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี พ.ศ. 2527 ส่วนผลการตรวจสอบสิทธิการทำกินของที่ตั้งอาคารเลี้ยงไก่และบริเวณใกล้เคียงไม่มีแปลงรังวัดสิทธิทำกิน (สทก.) และแปลงกรมป่าไม้อนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และไม่มีการสำรวจถือครองตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 หากได้เอกสารครบถ้วนจากส.ป.ก. และกรมป่าไม้จะส่งข้อมูลให้คณะกรรมาธิการที่ดินว่าเป็นการครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบหรือไม่

ด้านนายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลนี้เก็บข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งได้ประมวลผลควบคู่กับแผนที่เบื้องต้นเกี่ยวกับแนวป่า ชื่อ http://map.dsi.go.th ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พบว่า “เขาสนฟาร์ม” อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ส่วนหนึ่งอยู่ในแนวป่าไม้ถาวร ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี และอีกส่วนอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม

นายโสภณกล่าวถึง ข้อสรุปของร.อ.ธรรมนัส ที่ระบุว่า น.ส. ปารีณา’ ไม่รุกที่ส.ป.ก. เพราะถือครองมาตั้งแต่ในปี 2489 ก่อนประกาศเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีข้อน่าสงสัยเพราะบิดาของนางปารีณาคือนายทวี ไกรคุปต์ เกิดปี 2482 ขณะนั้นอายุเพียง 7 ปีเท่านั้น โดยในปี 2489 ที่ดินบริเวณนั้นยังคงเป็นป่าไม้สมบูรณ์อยู่ ที่สำคัญที่สุดคือ การครอบครองพื้นที่ป่าถึง 1,706 ไร่คงไม่ใช่การครอบครองแบบชาวบ้านปกติทั่วไปที่มีที่ดินแต่น้อยไว้ทำมาหากินเท่านั้น

แหล่งข่าวระดับสูงด้านกฎหมายของกระทรวงเกษตรฯ ระบุว่า การที่น.ส. ปารีณาอ้างว่า จัดแบ่งให้เกษตรกรรายอื่นไปเป็นจำนวนมาก จนเหลือที่ครอบครองอยู่เพียงเล็กน้อยนั้นเป็นข้ออ้างที่ไม่น่าจะรับฟังได้เพราะที่ดินบริเวณดังกล่าวส.ป.ก. ยังไม่ได้รังวัดหรือดำเนินการกระบวนการจัดสรรสิทธิใดๆ ในขณะที่สภาพการทำประโยชน์ในที่ดินแสดงชัดว่า มิได้แบ่งที่ดินเป็นส่วนๆ เพื่อให้ผู้อื่นเข้าทำประโยชน์แต่อย่างใด จึงถือว่า น.ส. ปารีณาครอบครองที่ดินรัฐรวมเนื้อที่ถึง 1,706 ไร่แต่เพียงผู้เดียว