“ธรรมนัส” กลับลำ สั่งค้นที่ดินส.ป.ก. ผุดเพิ่มฝั่งอ.สวนผึ้ง กว่า600ไร่ ยังไม่ชัดว่าเป็นของครอบครัว เอ๋ ปารีณา ซุกที่ไว้หรือไม่
พร้อมตรวจสอบยับทุกพื้นที่คาด มีขบวนการแหกตา ให้หลุด ม44 อื้อ. ลั่นทุกรายทำตามกฎหมายให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.62 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกรณีที่ฟาร์มไก่ เขาสนฟาร์ม อ.จอมบึง ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี ที่อยู่ในพื้นที่ส.ป.ก.และป่าสงวนแห่งชาติ จ.ราชบุรี กว่า1.7พันไร่ ว่าได้สั่งให้นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.)ตั้งคณะทำงานตรวจสอบรายละเอียดพิกัดแนวเขตพื้นที่ส.ป.ก.กว่า80แปลง ที่น.ส.ปารีณา ถือครองให้แน่ชัดว่ามีจำนวนเท่าไหร่กี่ไร่ พร้อมกับสอบถามกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในกรณีที่อยู่มาก่อนประกาศเขตปฏิรูปที่ดิน รวมทั้งแปลงที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์นส.3 สค.1 ต้องตรวจสอบการได้มาของกรรมสิทธิ์ในที่ดินด้วยว่ามีที่มาอย่างไร เมื่อไหร่คาดว่าเบื้องต้นน.ส.ปารีณา ไม่ได้บุกรุกที่ส.ป.ก.เพราะอยู่มาก่อนประกาศเขตส.ป.ก.เมื่อปี2536
ทั้งนี้ในส่วนการเสียภาษีดอกหญ้า หรือภบท.5 โดยท้องถิ่นยอมให้เสียภาษี ต้องไปตรวจสอบว่าน.ส.ปารีณา ใช้สิทธิ์อะไร เพราะบางพื้นที่ที่กรมป่าไม้ ส่งมาให้ส.ป.ก.จัดสรรกระจายสิทธิ มีการประกาศครอบพื้นมาทั้งหมดและส่งมาพร้อมผู้ครอบครองเดิม อยู่มาก่อน ดังนั้นส.ป.ก.ฝ่ายกฎหมายจะเร่งพิสูจน์ให้ชัดเจนอย่างละเอียดอีกครั้ง
“หลักการ ตอนนี้พื้นที่ของคุณเอ๋ ต้องเข้าสู่กระบวนกฎหมายสป.ก.ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการเกษตรอย่างเดียว และดูเรื่องคุณสมบัติ เมื่อเขาไม่ใช่เกษตรกร ต้องดู ไม่ใช่เขาอย่างเดียว มีชาวบ้านในที่นั้น ที่ไม่ใช่นอมินี อันไหนเป็นของชาวบ้าน ต้องจัดสรรให้ชาวบ้าน อันไหนเป็นของคุณเอ๋ ถ้าเป็นที่ดินแปลงใหญ่เกิน500ไร่ ต้องยึดคืน ตามมาตรา44 มาจัดสรรให้ชาวบ้าน ขณะนี้ส.ป.ก.ในพื้นที่และฝ่ายกฎหมาย ไปจับพิกัดที่ส.ป.ก.ที่จริงๆของคุณเอ๋ที่ดินส.ป.ก.มีเท่าไหร่แน่ ถ้าเป็นแปลงใหญ่เอาคืน แต่ปัญหาของที่ดินคุณเอ๋ ที่ดินส.ป.ก.ไม่ติดกัน ทั้ง3แปลง แปลงแรกติดถนน เป็นที่ส.ป.ก.และแปลงกลางเป็นที่มีเอกสารสิทธิ์ ต้องพิสูจนว่าเป็นเอกสารสิทธิอะไรได้มาอย่างไร ส่วนแปลงท้ายเป็นที่ส.ป.ก.ซึ่งทุกประเด็นปัญหาให้เร่งตรวจสอบดำเนินการทันที” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
เมื่อถามถึงจะเป็นไปได้หรือไม่ มีการซอยแปลงแบ่งแยกใส่ชื่อลูกไร่ เครือญาติ เพื่อไม่ให้ถึงแปลงใหญ่เกิน500ไร่เพื่อ หลบเลี่ยงยึดคืนตามม.44 คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่36/2559
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าน่าจะไม่ใช่ซอยแปลง พ่อคุณเอ๋บอกว่าซื้อที่ดินมาจากชาวบ้าน ปลูกไม้ยืนต้น ไม้ยูคา ไม่เป็นฟาร์มไก่อย่างเดียว และซื้อมาจากหลายเจ้า บางเจ้าเป็นเอกสารสิทธิ์ ทั้งนี้ถ้าพบเป็นแปลงใหญ่เกิน500ไร่ ยึดคืน ซึ่งฝ่ายกฎหมายเรียกคุณเอ๋มาเจรจาเพื่อพิสูจน์ทราบการอยู่มาก่อนและก็พร้อมให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมายส.ป.ก. ไม่ได้ต่อต้านอะไรเพราะก่อนหน้าเขาเสียภาษีดอกหญ้า พอมารู้ว่าเป็นที่เขตส.ป.ก.ก็ไม่คัดค้าน
เมื่อถามว่าที่ส.ป.ก.ของครอบครัวน.ส.ปารีณา มีผู้ร้องเรียนมาว่าซุกที่ส.ป.ก.ฝั่งอ.สวนผึ้งไว้อีก600กว่าไร่ ไม่ได้มีแค่ที่ส.ป.ก.ฝั่งอ.จอมบึง เท่านั้นจะดำเนินการอย่างไร
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ซุกไว้ก็จะค้นมาให้หมด ซึ่งเรื่องที่ส.ป.ก.ฝั่งอ.สวนผึ้ง600กว่าไร่ ของนายทวี ไกรคุปต์ ตนยังไม่ทราบล่าสุดตนได้สั่งหัวหน้าส.ป.ก.ทุกจังหวัดให้ตรวจสอบทุกราย ในแถบจ.กาญจนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ตนไม่ทราบว่ารอด ม.44มาได้อย่างไร ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นรมช.เกษตรฯ คิดว่าน่าจะมีอีกจำนวนมากยืนยันว่าหากมีข้อมูลไม่ว่าที่ไหน จะสั่งตรวจสอบหมดทำตามกฎหมายให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน จากนี้ต้องเข้าตรวจสอบทุกแปลง และยังไม่รู้ ว่าส.ส.คนไหนมีที่ส.ป.ก.บ้าง สำหรับตนไม่นิยมที่ส.ป.ก. มีแต่แจกให้กับคนไร้ที่ทำกินและเพื่อให้เกิดความโปร่งใสตนได้สั่งการให้ทาง สปก .ตรวจสอบอย่างละเอียดสแกนพื้นที่ส.ป.ก.จ.เพชรบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ทุกแปลงจังหวัดอื่นๆใช้มาตรฐานเดียวกัน เอากฎหมายส.ป.ก.เป็นที่ตั้ง และต้องดูสิทธิที่ถูกต้องตามคุณสมบัติ การใช้ที่ดินตามวัตถุประสงค์โดยยึดกฎหมายเป็นหลักและสัปดาห์หน้าตนลงไปแก้ปัญหาที่ดินส.ป.ก.กระบี่ ที่เพิกถอนที่สวนปาล์มของบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ให้ออกจากพื้นที่ทันที โดยจะล้มต้นปาล์มให้หมดเพราะเกิดปัญหามากมีมวลชนหลายกลุ่มเข้าไปจับจองเก็บผลิตขาย โดยได้ประสานฝ่ายความมั่นคง จัดการ ในพื้นที่ พร้อมรับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้าน เพื่อจัดสรรสิทธิในที่ดินให้เป็นของคนกระบี่จริงๆเท่านั้น