รมว.เกษตรฯ ย้ำกรมวิชาการเกษตรประสานกรมการข้าว หาแนวทางควบคุมการระบาดของโรคไหม้คอรวงข้าวที่เริ่มระบาดสู่ทุ่งกุลาร้องไห้
หวั่นผลผลิตข้าวหอมมะลิเสียหาย อธิบดีกรมการข้าวระบุ พื้นที่ระบาดขยายวงกว้างขึ้น เร่งพิจารณาใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อราที่จำเป็นและปลอดภัย
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงปัญหาการระบาดของโรคไหม้คอรวงข้าวที่กำลังระบาดหลายจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า ได้สั่งการกรมวิชาการเกษตรประสานกับกรมการข้าวและกรมส่งเสริมการเกษตรหาแนวทางควบคุมการระบาด ขณะนี้พบการะบาดในแปลงข้าวหอมมะลิพันธุ์ กข15 ที่อยู่ช่วงเก็บเกี่ยว จากรายงานเบื้องต้น บางแปลงผลผลิตข้าวเสียหายทั้งแปลง ส่วนแปลงที่ต้นข้าวติดเชื้อราบางส่วนยังเก็บเกี่ยวได้ แต่ผลผลิตลดลง ขณะนี้กำชับให้ป้องกันการระบาดสู่แปลงข้าวหอมพันธุ์ดอกมะลิ 105 ซึ่งกำลังจะเก็บเกี่ยวปลายเดือนพฤศจิกายนเพื่อไม่ให้เกษตรกรเดือดร้อนเนื่องจากปีนี้ข้าวหอมมะลิราคาดีมาก ทั้งนี้คาดว่าผลผลิตข้าวหอมมะลิในปีนี้มีปริมาณลดลงแน่นอนเพราะก่อนหน้านี้ประสบทั้งภาวะฝนทิ้งช่วง ตามด้วยอุทกภัย จนกระทั่งเกิดโรคระบาดอีก
นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า ขณะนี้โรคได้ระบาดเข้าสู่ทุ่งกุลาร้องไห้ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิที่สำคัญ จากที่ก่อนหน้านี้กรมการข้าวเสนอให้ใช้ไตรโคเดอร์มาซึ่งเป็นเชื้อราสำหรับกำจัดโรคจากเชื้อรา แต่พื้นที่ระบาดขยายวงกว้างขึ้นจึงสั่งกรมวิชาการเกษตรเข้าไปร่วมหาแนวทางควบคุมโรค หากจำเป็นต้องใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อราให้รีบดำเนินการก่อนจะเกิดความเสียหายมากไปกว่านี้
“ฤดูการผลิตนาปีจะสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายนจึงเร่งรัดให้สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนเพื่อจะได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร กรณีเสียหายโดยสิ้นเชิงและผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ เกษตรกรจะได้รับค่าชดเชยตามระเบียบกระทรวงการคลัง นอกจากนี้ยังมีมาตรการลดภาระต้นทุนการผลิต โดยแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวสำหรับฤดูกาลผลิตต่อไป หากผลผลิตข้าวหอมมะลิลดลงจนส่งผลให้ราคาสูงขึ้นและกระทบต่อผู้บริโภค กระทรวงเกษตรฯ จะประสานกระทรวงพาณิชย์ร่วมกันแก้ปัญหาอย่างเช่นกรณีข้าวเหนียวราคาแพง ได้จัดโครงการธงฟ้าขายข้าวเหนียวบรรจุถุงราคาถูกกว่าท้องตลาดให้ประชาชนซื้อไปบริโภค” นายเฉลิมชัยกล่าว
นายสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ อธิบดีกรมการข้าวกล่าวว่า พื้นที่การระบาดของโรคไหม้คอรวงข้าวขยายวงกว้างขึ้น จากเดิมพบแปลงที่เกิดโรคในจังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษรวม 364,960 ไร่ ขณะนี้ในจังหวัดสุรินทร์ระบาด 295,740 ไร่ ศรีสะเกษ 113,715 ไร่ แล้วได้ลุกลามไปยังเขตทุ่งกุลาร้องไห้ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ดที่อำเภอสุวรรณภูมิ 20,050 ไร่ จังหวัดมหาสารคามที่อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย 5,018 ไร่ นอกจากนี้ยังระบาดใน 7 อำเภอของจังหวัดอุบลราชธานี 181 ไร่
ทั้งนี้กรมการข้าวได้แจกจ่ายสารไตรโคเดอร์มาให้เกษตรกรฉีดป้องกันแปลงข้าวหอมพันธุ์ดอกมะลิ 105 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ติดต่อกับแปลงที่เกิดโรคระบาด โดยที่สุรินทร์แจกจ่ายแล้ว 29,061 กิโลกรัม ศรีสะเกษ 8,000 กิโลกรัม ร้อยเอ็ด 2,000 กิโลกรัม และมหาสารคาม 1,625 กิโลกรัม
นายสุดสาครกล่าวต่อว่า กำลังสำรวจความเสียหายและประเมินสถานการณ์การระบาดของโรคร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ว่าราชการจังหวัดตามข้อสั่งการของรมว. เกษตรฯ โดยหารือกันว่า หากการระบาดรุนแรงขึ้น อาจต้องใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อราเพื่อควบคุมโรคไม่ให้แพร่กระจายซึ่งจะแนะนำให้เกษตรกรใช้ตามความจำเป็นและใช้อย่างถูกต้องปลอดภัย