อธิบดีกรมชล สั่งตรวจสอบ..หลังเกิดแผ่นดินไหว อ.แม่อาย ระบุไม่กระทบเขื่อน9แห่ง ในจ.เชียงใหม่-เชียงราย
เมื่อวันที่ 2 พ.ย.62 นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่ภาคเหนือ เมื่อเวลา 19.26 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณ อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ วัดขนาดแรงสั่นสะเทือนได้ 3.2 ความลึก 3 กิโลเมตร นั้น กรมชลประทานได้ทำการตรวจสอบข้อมูลค่าความเร่งสูงสุดของพื้นดิน บริเวณที่ตั้งเขื่อนที่อยู่ในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ได้แก่ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแม่แหลงหลวง เขื่อนแม่ทะลบหลวง เขื่อนห้วยแม่ออน เขื่อนแม่จอกหลวง เขื่อนห้วยมะนาว จังหวัดเชียงใหม่ เขื่อนแม่สรวย เขื่อนดอยงู จังหวัดเชียราย ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทานแล้ว พบว่าค่าอัตราเร่งสูงสุดของพื้นดินที่เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้มีค่าน้อย (0.0000813g) เมื่อเทียบค่าให้เป็นค่า seismic coefficient (K) ที่ใช้ในการออกแบบเขื่อนเพื่อรองรับแผ่นดินไหว แล้วมีค่าประมาณครึ่งหนึ่งของค่าความเร่งสูงสุดที่ตรวจวัดได้ (K=0.00004) โดยค่า K ที่กรมชลประทานได้ออกแบบไว้ สามารถรองรับแผ่นดินไหวในพื้นที่ได้ประมาณ K=0.1 ซึ่งค่าที่ตรวจวัดได้ดังกล่าวเป็นค่าที่น้อยมากไม่ส่งผลกระทบต่อเขื่อนขนาดกลางและขนาดใหญ่ของกรมชลประทาน
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ออกแบบเขื่อนทุกแห่ง ให้สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ไว้ด้วยค่าที่สูงสุดของความเสี่ยงในพื้นที่ประเทศไทย ดังนั้น เหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวเขื่อนแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน ได้ดำเนินการตรวจสอบและติดตามข้อมูลทางสถิติของค่าความเร่งสูงสุดที่เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอยู่ตลอดเวลา เพื่อประเมินเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น และแนวโน้มที่จะส่งผล กระทบต่อเขื่อน เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อน มีความมั่นใจและเชื่อมั่นในความปลอดภัยแข็งแรงของเขื่อนตลอดเวลา