เกษตรฯ เร่งช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแบน 3 สาร
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิดแล้ว เพื่อให้เกษตรกรมีทางเลือกในการปรับเปลี่ยน จากเดิมที่เคยใช้พาราควอตและไกลโฟเซตเป็นสารป้องกันกำจัดวัชพืช ส่วนคลอร์ไพริฟอสนั้นใช้เป็นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ทั้งนี้คณะทำงานจะต้องสำรวจจำนวนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ สอบถามถึงสิ่งที่ต้องการให้รัฐเข้าไปช่วยเหลือ ตลอดจนหาสารทางเลือกที่เป็นทั้งสารเคมีอื่น สารชีวภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ การสนับสนุนเรื่องแรงงานและเครื่องจักรกลการเกษตรในการกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ทั้งนี้หากต้นทุนการผลิตของเกษตรกรสูงขึ้น รัฐจะกำหนดมาตรการเยียวยาในอัตราที่เหมาะสม โดยจะเสนอให้ครม. เห็นชอบ
สำหรับการกำจัดสารเคมี 3 ชนิดคือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอไพริฟอส ซึ่งคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติให้ปรับเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ห้ามผลิต นำเข้า จำหน่าย และครอบครอง เมื่อกรมวิชาการเกษตรสำรวจปริมาณคงเหลือให้ชัดเจนแล้ว เมื่อประกาศการยกเลิกใช้ตามพ.ร.บ. วัตถุอันตรายมีผลบังคับใช้ กรมวิชาการเกษตรต้องอายัดทั้งหมดเพื่อทำลายต่อไป ทั้งนี้การทำลายวัตถุอันตราย 3 ชนิดซึ่งเบื้องต้นพบว่า มีปริมาณคงค้างรวม 29,869.58 ตัน จะต้องหาวิธีทำลายที่ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยจะมีการทำลายสารเคมีวัตถุอันตรายจำนวนมากเช่นนี้ ซึ่งกรมวิชาการเกษตรคาดว่า กว่าจะทำลายได้หมดจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน