อาจารย์ ระแงะปลูกกาแฟในสวนยางเลี้ยงชะมด สร้างรายได้เดือนละ80,000บาทถึง1แสนบาท ต่อเดือน
ขายตรง เป็นรายแรกของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นพืชทางเลือกแก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสได้อีกทางหนึ่ง
ที่ เลขที่ 241/3 หมู่2 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นายพนัสพล โกสิยาภรณ์ ผอ.การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดนราธิวาส ส่งเสริมให้ชาวสวนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากรายได้หลักของชาวสวนด้วยการปลูกกาแฟ สร้างโอกาสทางการค้า และเป็นพืชทางเลือกแก่เกษตรกรในพื้นที่
ด้านนายบัญชา แสนสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกอแนะเหนือ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เจ้าของสวนกาแฟที่ปลูกในสวนยางเพื่อนำไปเลี้ยงตัวชะมดในฟาร์ม กล่าวว่า กาแฟขี้ชะมดหลังจากชะมดได้กินผลเชอรี่ผลกาแฟสุกจากต้นในสวนในไร่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีโครงการปลูกกาแฟอาราบิก้าในสวนยางพาราเพื่อเพิ่มมูลค่าซึ่งชะมดเป็นการเพิ่มผลผลิตตัวเสริม ปลูกกาแฟเพื่อเสริมรายได้หลักของชาวสวนด้วยการปลูกกาแฟ แรกนั้นในสวนต่างๆ เช่น ปลูกยางหรือลองกอง สู่ตลาดได้ ในการเลี้ยงชะมด 100 ตัว ในแต่วันชะมดจะกินผลเชอรรี่สุกกินกาแฟสุก100 กิโล ของแต่ละตัวชะมด หลังจากนั้นจะเก็บขี้ชะมดขี้ออกมาเป็นผลกาแฟ 4 กิโล ถ้ากาแฟมีคุณภาพอยู่ที่กิโลละ 40,000 บาท เฉลี่ยชะมด 100 ตัว สามารถสร้างรายได้เดือนละ 30,000 -40,000 บาท บางเดือนได้ 100,000 บาท อีกด้วย
นอกจากนี้ การปลูกกาแฟอาราบิก้า เป็นผลสด ลักษณะของผลเป็นรูปไข่แกมรูปทรงกลม โดยผลอ่อนจะเป็นสีเขียว แต่เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดง จุดเด่นของกาแฟอาราบิก้า มีกลิ่นหอมและสารกาแฟสูง ทำให้ดื่มแล้วรู้สึกได้ถึงความกระปรี้กระเปร่า มีชีวิตชีวา โดยกาแฟชนิดนี้มีปริมาณของคกาแฟอีนต่ำ เป็นกาแฟที่มีคุณภาพสูง มีความห้อมไม่เป็นรองใคร การปลูกกาแฟ 1 ไร่ จะได้ 200 – 250 ต้น ระยะเวลา 2 ปี สามารถดูผลผลิตได้
ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ จ.นราธิวาส