ตม.เชียงใหม่ จับกุม คนต่างด้าวสัญชาตินิวซีแลนด์ใช้วีซ่าชีวิตบั้นปลาย  ประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตและจำหน่ายยาเสพติด

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. แถลงข่าว ตม.เชียงใหม่ จับกุม คนต่างด้าวสัญชาตินิวซีแลนด์ใช้วีซ่าชีวิตบั้นปลาย  ประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตและจำหน่ายยาเสพติด

 

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับ ดูแลชาวต่างชาติ ที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด นั้น

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ชำนาญ ชำนาญเวช ผบก.ตม.5, พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 และ พ.ต.อ.โกเมน สุภาพ ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ ร่วมแถลงข่าว ดังนี้

พฤติการณ์แห่งการจับกุม จากการสืบสวนหาข่าวของชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปราม ตม.จว.เชียงใหม่สืบทราบว่า บริษัท ริมิ โฮสดิ้งส์ จำกัด ประกอบการในชื่อ ร้าน SPADES BISTRO&BAR สถานที่เกิดเหตุ ตั้งอยู่เลขที่ 207 ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ มีลักษณะเป็นธุรกิจร้านอาหารและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีคนต่างด้าวลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย จึงได้เฝ้าติดตามดูพฤติกรรมจนพบว่า มีชายคนต่างด้าวอยู่ภายในร้านจะทำหน้าที่มาคอยดูแลลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการภายในร้าน มีการรับชำระเงินจากลูกค้า เป็นต้น จึงได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นเพื่อเข้าตรวจสอบและจับกุมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2562 เวลา 22.00 น. โดยตรวจพบคุณไมค์ หรือ MR.MICHAEL กำลังดูแลลูกค้าอยู่ ภายในร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและเอกสารการจัดตั้งบริษัท ซึ่งตรวจพบว่า MR.MICHAEL เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2562 ได้รับการตรวจลงตราประเภทสงวนสิทธิ์การตรวจลงตราเดิม (ใช้ชีวิตบั้นปลาย) ได้รับอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 26 มีนาคม 2563 ประกอบกับตรวจพบเอกสารการจดทะเบียนนิติบุคคลจากสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดเชียงใหม่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า MR.MICHAEL เป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัทฯ ซึ่งวีซ่าประเภทนี้ไม่สามารถทำงานใดๆ หรือเป็นกรรมการของบริษัทได้

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจสอบข้อมูลกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งอยู่ภายในร้าน โดย MR.MICHAEL แจ้งว่าไม่มีการบันทึกข้อมูล กล้องวงจรปิดที่ตรวจพบมีเพียงแค่ตัวกล้องติดตั้งเท่านั้น ไม่ได้ใช้งานเนื่องจากเป็นกล้องของผู้เช่าอาคารคนเดิมซึ่งไม่ได้ถอดออกไปด้วย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อตามที่กล่าวอ้าง จึงให้ MR.MICHAEL นำตรวจสอบบริเวณชั้น 2 และ 3 ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการบันทึกข้อมูลกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด แต่ได้ตรวจพบยาเสพติด คือ ยาอีหรือเอสตาชี 64 เม็ด, โคเคน น้ำหนักรวม 9.92 กรัม และยาเค 9.68 กรัม อีกทั้งพบถุงซิปล็อคขนาดเล็ก จำนวนหลายถุง ซุกซ่อนในลิ้นชักโต๊ะทำงาน บริเวณชั้น 3 ของร้านที่เกิดเหตุ จึงเชื่อว่า MR.MICHAEL มีพฤติการณ์มียาเสพติดให้โทษเพื่อเสพและจำหน่ายด้วย

ในเบื้องต้นได้สอบถาม MR.MICHAEL ให้การว่าได้ซื้อยาเสพติดทั้งหมดจากเพื่อนผู้ชายชาวต่างชาติซึ่งไม่ได้แจ้งชื่อให้ทราบ โดยซื้อมาเป็นเงินประมาณ 45,000 บาท จากนั้นจึงได้ตรวจสารเสพติดในปัสสาวะของ MR.MICHAEL พบว่ามีผลเป็นบวกในกลุ่มยาเสพติดประเภทโคเคน ประกอบกับจากการสอบปากคำพยานซึ่งเป็นพนักงานของร้าน ให้การสอดคล้องต้องกันว่าเจ้าของร้าน คือ MR.MICHAEL และพนักงานบางคนเคยรู้เห็นว่า MR.MICHAEL เคยใช้ยาเสพติดบ้างเป็นบางครั้ง แต่ไม่ทราบว่าเป็นยาเสพติดชนิดใด เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ MR.MICHAEL ได้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต”, “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน”, “เป็นคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวแต่ประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอีหรือเอสตาซี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”,“มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”, “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) โดยผิดกฎหมาย”, “มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (ยาเคหรือเคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” และจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2562 เวลาประมาณ 14.00 น. ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ นำโดย พันตำรวจโท ฐิติวัฒน์ ฤชานุกูล รองผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ และชุดสืบสวน ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการสืบสวนขยายผลการจับกุมยาเสพติดดังกล่าว จนทราบว่า MR.MICHAEL ได้เช่าบ้านพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 280 หมู่ 5 ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 315/2562 เข้าตรวจค้นเพื่อหาสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติด โดยได้แสดงหมายค้นให้ นางสาวภัณฑิรา เจ้าของบ้านและเป็นผู้ให้เช่า ผลการตรวจค้นพบอุปกรณ์ที่สันนิษฐานว่าใช้เสพยาเสพติดให้โทษ จำนวน 14 รายการ เช่น อุปกรณ์ท่อสูบทองเหลือง มีเขม่าสีดำด้านใน เชื่อว่ามีไว้เสพยาเสพติดของเหลวลักษณะข้นสีดำเชื่อว่าอาจจะเป็นยาเสพติดประเภทฝิ่น เป็นต้น จึงได้ทำการตรวจยึดและมอบให้พนักงานสอบสวนส่งตรวจพิสูจน์ที่งานตรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้การตรวจพิสูจน์ยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งจะได้ติดตามผลการตรวจพิสูจน์นำเรียนผู้บังคับบัญชาในลำดับต่อไป

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอเรียนให้ทราบว่าการบูรณาการกับหน่วยที่เกี่ยวข้องในการ ระดมกวาดล้างการจับกุมคนต่างด้าวทำงานโดยผิดกฎหมายเป็นมาตรการในการป้องกันปราบปรามที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากผู้ใดพบเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซอยสวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หมายเลข 1178 หรือ ทางเว็บไซต์ www. immigration.go.th 

@พ.ต.ต. ญ. พัชรี ศรีเผือก
#ธวัชชัย เฟื่องอนันต์ รายงาน

 

You May Have Missed!

1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.) จับมือกูรูด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม จัดสัมมนาสื่อมวลชน ชู “ไฟฟ้า” คู่ “การลดคาร์บอน” หัวใจสำคัญของการพัฒนาในพื้นที่ EEC
0 Minutes
กีฬา
มิเกล โรดริโก้ หั่นเองกับมือ 14 แข้งสุดท้าย “เทอดศักดิ์-ณรงค์ศักดิ์-กฤษณ์” นำทัพป้องกันแชมป์ฟุตซอลอาเซียน2024 ที่ เทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา 2-10 พ.ย.นี้ เข้าชมฟรี
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
Mr.หลิน​ จิ้น เจี๋ย รอง​ ปธ.บจก.หัวเซ​ิ้น เทรดดิ้ง เป็นประธานมอบรางวัลให้กับนักกีฬากอล์ฟ ในรายการ “กุ้ยโจว เหมาไถ มินิ กอล์ฟ ทัวร์นาเมนต์ ครั้งที่​ 5”
0 Minutes
โรงพยาบาล
ผู้บริหารของโรงแรม โฟร์ซีซั่น กรุงเทพฯ รุดมอบ เต้านมเทียม 150 ชิ้น มอบให้ผู้ป่วยที่ต้องการใช้งานเต้านมเทียม