เอกชน คิดค้น จุลินทรีย์กำจัดวัชพืช ทดแทน พาราควอตโอด ถูกเจ้าหน้าที่กรมวิชาการ บุกค้น “จุลินทรีย์กำจัดวัชพืช”
จ้องเอาผิด แทนที่ ที่จะเร่งศึกษาร่วมกัน เห็นแก่ชาติ เตรียมเดินทางชี้แจง ให้เกิดความกระจ่างใจ 24 ตุลาคมนี้
ซัดแหลก หากจริงใจแก้ปัญหา ต้องเร่งศึกษาเอาจริงกับการ ยกเลิกใช้สารเคมีในประเทศ
นายฐปนรมย์ แจ่มใส กรรมการบริหารบริษัทวอน ซิสเต็มส์ เปิดเผยว่า จากที่ตนทำหนังสือถึงนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอเข้าให้ข้อมูลกับทางกระทรวงเกษตรฯ เรื่องการใช้จุลินทรีย์เพื่อกำจัดวัชพืชในการประกอบอาชีพทางเกษตรกรรม ตามที่กระทรวงเกษตรฯประกาศนโยบายเพื่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ และผลักดันยกเลิกการใช้3สารเคมี เมื่อวัน พฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยหลังจากที่ทำหนังสือ ขอชี้แจงกับทางพระทรวงเกษตรฯ เพื่อให้ข้อข้อมูลว่ามีการศึกษาวิจัยที่ชัดเจน มีสิ่งที่ทดแทนสารเคมี ในการกำจัดวัชพืชได้ โดยเมื่อวันที่18 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรทำการล่อซื้อจุลินทรีย์ ที่โรงงานของตนเองที่ อ.วังน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา โดยอ้างว่าได้รับแจ้งว่ามีการจำหน่ายจากโรงงานดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ของตน ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ ว่าไม่ได้มีการผลิตจุลินทรีย์ ในโรงงงานดังกล่าว เพราะเป็นโรงงงานผลิต ขวดพลาสติก เท่านั้นไม่ได้มีการผลิตและจำหน่าย ที่ใช้ทั้งหมด เป็นการผลิตและและใช้ในกลุ่มของตน ในกลุ่ม ที่ปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ เฉพาะกลุ่ม เพื่อส่งเสริมให้ลดการใช้ สารเคมมีในประเทศ ไทย แต่เจ้าหน้าที่ฯ ยังขอตรวจค้นอย่างเข้มงวด ทุกซอกทุกมุมภายในโรงงงาน และไม่เข้าใจว่ากรมวิชาการเกษตรต้องการอะไรทำไมต้องเข้าตรวจค้น ทั้งที่โรงงานดังกล่าวก็ มีการจัดตั้งมานานแล้ว ส่วนการผลิตจุลินทรีย์ก็มีการใช้เฉพาะกลุ่มผู้ปลูกอินทรีย์ไม่มีการจำหน่ายใดๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนเองพยายามที่จะทำให้ถูกกฎหมาย เพื่อที่จะจำหน่าย แต่กรมวิชาการเกษตรก็ ไม่ยอมจดขึ้นทะเบียนให้ แต่พอจะเข้าไปชี้แจงว่ามีสิ่งทดแทน สารเคมี กลับถูกเข้าตรวจค้น แต่ตนก็ ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะทุกอย่างคิดว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องและคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ ต่อประเทศชาติ เลย อยากจะให้ข้อมูลกับทางภาครัฐ และก็ ไม่ทราบว่ามันไปขัดอะไรกับใครถึงมีคำสั่งให้ตรวจค้นในครั้งนี้ และยืนยันการเข้าไปให้ข้อมูลกับทางกระทรวงเกษตรฯ เป็นไปด้วยความบริสุทธิใจ และอยากให้สังคมเข้าใจข้อเท็จจริงเสียทีว่า มีสิ่งที่ทดแทนสารเคมรได้ทันที
หากทางภาครัฐห่วงสุขภาพคนไทยจริงก็ควรน่าจะมาขอร่วมมือกันลดการใช้สารเคมมีในประเทศ และตนพร้อมที่จะให้ข้อมูลที่มีการศึกษาวิจัยมานาน ทันที หากเห็นว่าเป็นประโยชน์ ต่อคนในประเทศ
“ผมไปอยู่มาหลายประเทศ ทั้งญี่ปุ่น เยอรมัน อินโดนีเซีย และยุโรปหลายประเทศ ก็ ใช้จุลทรีย์ ชนิดนี้ใช้ในการแก้ปัญหาการลดการใช้สารเคมีและก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีทุกประเทศ ที่ต้องการลดใช้สารเคมีทั้งหมด เค้ายินดี ไม่มีอะไร และกลุ่มที่ผมทำงานด้วยเค้าผลิตพืชผักอินทรีย์ แทบทั้งหมด ทั้งญี่ปุ่น เยอรมัน ทุกประเทศ ต้องการทั้งนั้น อยากได้สูตร อยากลดการใช้สารเคมี และรัฐบาลเค้าเองก็สนับสนุน แต่ผมเป็นคนไทย แก่แล้วก็ อยากกลับมาบ้านตนเองคือประเทศไทยไม่มีอะไรดีที่ีเท่าบ้านเราเลยอยากกลับมาที่บ้านเพื่อพัฒนาประเทศ แต่พอขยับที่จะผลักดันให้ลดการใช้สารเคมี พอจะให้ข้อมูลเท่านั้น ก็ แปลกๆแล้ว อยู่ดีๆก็มาขอค้น แต่ก็ ไม่เป็นปัญหา ถ้าเราคิดจะทำดีก็ ไม่ต้องกลัวใคร ซึ่งกระทรวงเค้าแจ้งมาแล้ว ว่า วันที่24 ตุลาคมนี้ ซึ่งผมจะเดินทางไปให้ข้อมูล ทั้งหมดวันนี้ ต้องมาร่วมมือกัน ไม่ใช่เที่ยวมาจ้องจะไล่จับกัน เมื่อไหร่ มันจะพัฒนาไปได้เสียที มันน่าจะตาสว่างได้แล้ว” นายฐปนรมย์
นายฐปนรมย์ บอกอีกว่า กลุ่มคนที่ ให้ตนผลิตจุลทรีย์ ในการ ในการกำจัดวัชพืชครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเฉพาะ เท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เน้นเรื่องเกษตรอินทรีย์ และตนเองเป็นผู้ส่งออก ด้วย ตอนนี้ ได้ ตั้งกลุ่ม ผลิตข้าวอินทรีย์ และพิชผักอินทรีย์ เพื่อการส่งออก และเค้าผลิต ผลเองก็ เป็นคนรวบรวม ส่งออก ราคาก็ดี ตอนนี้ ข้าวอินทรีย์ ต่างประเทศต้องการเยอะ ผลิตส่งออกไม่พอ และ จุลินทรีย์ ไม่ใช่ จุลินทรีย์ กำจัดวัชพืช ยังมี จุลทรีย์ ที่ใช้ในการปรับปรุงบำรุงดิน ตนยืนยันว่าตนศึกษาเรื่องนี้มานาน และท้า เลยว่า แม้ว่า แปลงทดลองที่ตนส่งเสริม และอยู่ในกลุ่มที่ใช้ เป็นแปลงที่ปลอดสารเคมมีทั้งหมด โดยมีการศึกษาชัดเจนว่ามันใช้ได้ผลจริง และขอท้าพิสูจน์ พื้นที่ในกลุ่มได้เลยว่าไม่มีสารเคมีตกค้างทั้งสิ้น โดยต้นทุน ในการใช้ ทั้งการปรับปรุงดิน และ การใช้จุลินทรีย์ ครบวงจร ก็ ไม่ใช้ว่ามากมาย จากดินที่เป็นดินที่ปนเปื้อนสารเคมี ใช้เวลาปรับดินจากเดิมที่มีสาร เคมมีปนเปื้อนก็ใช้เวลา เพียง1 ปี จะ ไม่มีปนเปื้อน ในพื้นที่เลย และขอท้าว่าทำได้ หาก ภาครัฐสนับสนุนลดการใช้สารเคมีจริง สามารถเข้ามาตรวจสอบได้เลย