อธิบดีกรมธนารักษ์ ตอบสนองนโยบายลดความเหลื่อมล้ำของสังคม
พร้อมสร้างโอกาสแก้ปัญหาด้านที่อยู่อาศัยและไร้ที่ดินทำกินของเกษตรกร ภายใต้โครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ”
วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2562 เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารกรมธนารักษ์ นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ตอบสนองนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ, นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ดำเนินเศรษฐกิจการลดวามหลื่อมล้ำของสังคมและกาสร้างโอกาสการข้าถึงบริการของรัฐ แก้ปัญหาด้านที่อยู่อาศัยและไร้ที่ดินนทำกินของเกษตกรภายใต้โครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” ทั้งนี้เนื่องจากสภาวะความต้องการที่ดิน เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ที่ทำกินและเพื่อดำเนินกิจกรรมด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากความจริญเติบโตของสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ก่อให้เกิดปัญหาการเข้าครอบครองที่ดินของรัฐ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการปกครอง ดูแล และการบริหารทรัพย์สินของรัฐ รัฐบาลจึงมีนโยบายการบริหารทรัพย์สินของประเทศ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน มุ่งเน้นให้มีการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของราษฎร โดยการรับรองสิทธิในการเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินรัฐ เพื่ออยู่อาศัยและทำกินได้อย่างเป็นธรรมและมีความมั่นคง กรมธนารักษ์ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการปกครองดูแลที่ราชพัสดุ ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐประเภทหนึ่งที่สามารถสนับสนุนนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลภายไต้โครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” ดังนั้นจึงได้เร่งดำเนินการเพื่อตอบสนองนโยบายในการแก้ปัญหาเชิงสังคม ด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินของเกษตรกร ตามโครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” โดยจะดำเนินการสำรวจรังวัด จัดทำแผนที่ผู้ครอบครองที่ราชพัสดุที่ไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ ซึ่งครอบครองอยู่ก่อนวันที่ 4 ตุลาคม 2546 โดยการจัดให้เช่าที่ถูกต้อง อันเป็นการสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน
โดยในปี พ.ศ.2561 ได้ทำการสำรวจผู้ครอบครองที่ราชพัสดุโดยมิชอบทั่วประเทศที่ยินยอมและไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ปรากฏว่ามีจำนวน 86,084 ราย ในงบประมาณ พ.ศ. 2562 จึงได้ดำเนินการตามโครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” ประกอบด้วย
กิจกรรมที่ 1 การจัดให้ผู้ครอบครองที่ราชพัสดุที่ไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ เช่าที่ราชพัสดุ เพื่ออยู่อาศัยและประกอบการเกษตร 3,676 ราย จากเป้าหมาย 3,500 ราย
กิจกรรมที่ 2 การสำรวจรังวัดจัดทำแผนที่ รับคำร้อง สอบสวนสิทธิ และจัดให้เช่าที่ราชพัสดุเพื่ออยู่อาศัยและที่ดินทำกิน กำหนดพื้นที่ดำเนินการทั่วประเทศ จำนวน 4,000 ราย ซึ่งดำเนินการได้จำนวน 5,342 ราย เพื่อการจัดให้ผู้ครอบครองที่ราชพัสดุที่ไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์เช่า
โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ได้กำหนดแผนกิจกรรมจัดทำโครงการธนารักษ์ประชารัฐทั่วประเทศ ไม่เกิน 50,000 ราย
โดยโครงการนี้ ได้สร้างผลลัพธ์แก่ทั้งทางรัฐและประชาชน ดังนี้
รัฐ
1.ปัญหาการบุกรุกที่ดินได้รับการแก้ไข
2.ที่ดินรายพัสดุมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทางเศรษฐกิจและสังคม
3. เป็นการลดปัญหาข้อโต้แย้ง เรื่องแนวเขตที่ดินราชพัสดุและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานภาครัฐ
ประชาชน
1.ผู้ครอบครองที่ราชพัสดุที่ไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ได้รับการรับรองสิทธิด้วยการจัดให้เช่า
2. ประชาชนมีความมั่นคงในการมีที่ดินสำหรับอยู่อาศัยและประกอบอาชีพ
3. ลดความเหลื่อมล้ำด้านที่อยู่อาศัยและความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ทั้งนี้ กรมธนารักษ์จะดำเนินการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับราษฎร ในพื้นที่ราชพัสดุ บริเวณ ขอบอ่างเก็บน้ำชลประทานลำปาวใช้ในราชการกรมชลประทานแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กส.584 จังหวดกาฬสินธุ์ ในวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2562 ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอหนองกุงศรี อำภอหนองกุงศรี
จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 340 ราย และจะดำเนินการมอบสัญญเช่าที่ราชพัสดุให้กับราษฎรในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในระหว่างวันที่ 28-29 ตุลาคม 2562 อีกจำนวน 350 ราย และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2663 กรมธนารักษ์จะเร่งดำเนินการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับราษฎรทั่วประเทศ จำนวนไม่เกิน 50,000 ราย ให้ได้ เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลภายใต้โครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” ต่อไป อธิบดีกล่าว
ทิ้งท้าย
#กฤษติน นิลมานนท์
#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย 54 ปี (สภท.54 ปี)
#ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน