รมว. เฉลิมชัยชี้ ราคายางพาราเริ่มปรับตัวสูงขึ้นแล้ว และมีแนวโน้มดีต่อเนื่องหากตลาดซื้อขายล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้เปิดทำการ ระบุ ช่วงเทศกาลวันชาติจีน ตลาดปิดยาวเป็นผลให้ราคาลดลง
เร่งส่งมาตรการประกันรายได้ชาวสวนยางพาราที่ผ่านมติกนย. แล้วให้ครม. พิจารณาอนุมัติเร็วที่สุด
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ราคายางพาราในต้นสัปดาห์นี้สูงขึ้น โดยราคายางแผ่นดิบรมควันชั้น 3 เมื่อวานนี้อยู่ที่ 37.99 บาท สูงขึ้นกว่าปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.26 บาท ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนราคายางปรับลดลงเนื่องจากเป็นเทศกาลวันชาติจีน ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน – 10 ตุลาคม หยุดกิจกรรมการซื้อขายยาง เหลือเฉพาะตลาด TOCOM ของญี่ปุ่นและ SICOM ของสิงคโปร์ทำให้ราคายางปรับลดเนื่องจากคู่แข่งมีน้อยและพ่อค้ายางเกือบทุกเจ้า รอราคาตลาดล่วงหน้าที่เซี่ยงไฮ้ของจีนที่จะเปิดทำการหลังเทศกาลวันชาติ จึงจะใช้ราคาอ้างอิงในการซื้อขาย นอกจากนี้บริษัท Chongqing ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายยางรายใหญ่อันดับหนึ่งของจีนที่นำเข้ายางประมาณปีละ 1,500,000 ตัน ประกาศเลิกกิจการตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน จึงส่งผลต่อผู้ส่งออกยางของไทย ราคายางในไทยจึงปรับลดลง โดยบริษัทChongqing เป็นลูกค้ารายใหญ่ของ 1 ใน 5 บริษัทผู้ส่งออกยางรายใหญ่ของไทย ดังนั้นจึงส่งผลกระทบทั้งเรื่องการจ่ายเงินค่าสินค้า ไม่มารับยางที่ส่งถึงท่าเรือจีน อีกทั้งยังมียางระหว่างขนส่งและยางที่เตรียมส่งมอบในโรงงานผู้ผลิต ทำให้ราคายางที่บริษัทต่างๆ รับซื้อจากเกษตรกรชาวสวนยางลดต่ำลง
นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า ราคายางพาราในตลาดโลกยังได้รับผลกระทบจากความกังวล เรื่องสงครามการค้าระหว่างจีนกับอเมริกา ธนาคารระมัดระวังการปล่อยเงินกู้ ทั้งยังไม่ปล่อยเงินกู้ให้แก่บริษัทยาง โดยจะปล่อยเงินกู้ได้ต่อเมื่อบริษัทนำสัญญาการซื้อขายไปแสดงเท่านั้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเร่งขายยางในราคาต่ำเพื่อให้ได้สัญญาไปประกอบการกู้เงินเพื่อใช้หมุนเวียนในธุรกิจยาง จึงซื้อยางพาราจากเกษตรกรในราคาต่ำเช่นกัน
นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) คาดว่า หลังจากตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่เซี่ยงไฮ้ของจีนกลับมาซื้อขายหลังเทศกาลวันชาติ ราคายางจะค่อยๆ กลับมาอยู่ในภาวะปกติได้ ทั้งนี้เกษตรกรไม่ต้องกังวลเนื่องจากโครงการประกันรายได้ชาวสวนยางพาราผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) แล้ว โดยจะเร่งเสนอให้ครม. พิจารณาอนุมัติต่อไป แต่ตามโครงการประกันรายได้นั้นกำหนดให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ดังนั้นไม่ว่าเกษตรกรจะขายยางได้ในราคาเท่าไรก็สามารถรับเงินส่วนต่างจากโครงการฯ ซึ่งกำหนดให้ราคายางแผ่นคุณภาพดีอยู่ที่ 60 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) 57 บาท/กิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23 บาท/กิโลกรัมซึ่งกนย. มีมติเร่งรัดการจ่ายเงินงวดแรกให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 1 – 15 พฤศจิกายน 2562