สำนักงานศาลยุติธรรมและคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ลงนาม MOU ความร่วมมือด้านสาธารณสุข สนับสนุนการบริจาคโลหิตและบริการทางการแพทย์

สำนักงานศาลยุติธรรมและคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ลงนาม MOU ความร่วมมือด้านสาธารณสุข

สนับสนุนการบริจาคโลหิตและบริการทางการแพทย์

 

วันนี้ (4 ตุลาคม 2562) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ สำนักงานศาลยุติธรรม ชั้น 12 อาคารศาลอาญา นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และรองศาสตราจารย์ประยุทธ ศิริวงษ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือทางด้านสาธารณสุข ระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรมและคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนบริการด้านสาธารณสุข และการจัดหาโลหิตให้เพียงพอต่อความต้องการในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย

นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มีโรงพยาบาลวชิรพยาบาลเป็นโรงพยาบาลในสังกัดซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ระดับตติยภูมิ รับตรวจรักษาโรคทั่วไปและโรคที่สลับซับซ้อน และมีประชาชนมาใช้บริการในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีโลหิตไม่เพียงพอต่อความต้องการในการให้บริการผู้ป่วย และบ่อยครั้งที่ธนาคารเลือด ไม่สามารถจัดหาโลหิตมาสำรองไว้ได้อย่างเพียงพอ ทำให้ต้องจัดหาโลหิตแก่ผู้ป่วยที่ต้องการโดยเร่งด่วน ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชีวิต ร่างกายและอนามัยของผู้ป่วย โดยที่ผ่านมาสำนักงานศาลยุติธรรมได้ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล จัดโครงการบริจาคโลหิตมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พนักงานราชการ และลูกจ้างในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม มีจิตอาสา ทำความดีด้วยการบริจาคโลหิต ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการต่อชีวิตให้แก่เพื่อนมนุษย์ การบริจาคโลหิตเพียง 1 ครั้ง สามารถช่วยผู้ป่วยได้อย่างน้อยถึง 3 คน สำนักงานศาลยุติธรรมเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช จัดทำบันทึกความร่วมมือด้านสาธารณสุขดังกล่าวขึ้น โดยกำหนดให้มีการรับบริจาคโลหิต ณ สำนักงานศาลยุติธรรม จำนวน 4 ครั้งต่อปี (3 เดือนต่อครั้ง) ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นเร่งด่วนเนื่องจากเกิดการขาดแคลนโลหิต
ในการให้บริการผู้ป่วย จะขอความร่วมมือรับบริจาคโลหิตเป็นกรณีพิเศษเป็นครั้งๆ ไป โดยโครงการดังกล่าวนี้จะดำเนินการต่อเนื่องไปเป็นเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันลงนามบันทึกความร่วมมือนี้

 

เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสองหน่วยงานและประชาชนทั่วไป โดยที่คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลจะส่งเสริมและสนับสนุนบริการด้านการสาธารณสุข และเป็นเครือข่ายด้านการแพทย์ให้แก่สำนักการแพทย์ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของสำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อให้การดำเนินการบริการทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการตรวจรักษาโรคที่สลับซับซ้อนหรือต้องการความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ต้องการเครื่องมือตรวจพิเศษหรือวิธีการรักษาที่สำนักการแพทย์ยังไม่มีหรือขาดทักษะและความชำนาญที่เกี่ยวข้องและการส่งต่อผู้ป่วยเพื่อประโยชน์ในการป้องกัน รักษา บำบัดและฟื้นฟูการเจ็บป่วยของข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมและประชาชนทั่วไป ในขณะที่สำนักงานศาลยุติธรรมก็จะช่วยสนับสนุนคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลในการเป็นสถานที่ฝึกปฏิบัติของบุคลากร นักศึกษา เพื่อเพิ่มพูนทักษะ ความรู้ความสามารถในการให้บริการหรือการผลิตบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลต่อไป

 

 

 

You May Have Missed!

1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
คณะกรรมการบริหารโรงเรียนปลูกปัญญา แต่งตั้ง “บิ๊กทิน” ผจก.ฟุตซอลทีมชาติไทย  เป็นประธานที่ปรึกษาโรงเรียน
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ เตรียมจัดงานใหญ่ส่งท้ายปี งานมหกรรม ภูมิพลังแผ่นดิน
1 Minute
กิจกรรมเพื่อสังคม
ไม่สนคำ ว่าทำบุญเอาหน้า…เสี่ยเดย์ นักบุญเจ้าเดิมช่วยการศึกษาอีกกว่า 3 ล้าน
0 Minutes
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร จัดงานวันสถาปนาครบรอบ 53 ปี ชูแนวคิด ทุ่มเทอย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างประสบการณ์สุขภาพที่เหนือชั้น เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพิ่มการยอมรับและมั่นใจกับผู้มารับบริการ