มิตรผลจับมือเกษตรกรร่วมตัดอ้อยสด เพิ่มรายได้ สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี
ยืนหนึ่งต้นแบบการเปิดรับซื้อใบอ้อยต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ตั้งเป้าฤดูหีบ 2567/2568 รับซื้อใบอ้อย 700,000 ตัน
กลุ่มมิตรผล ผู้นำด้านความยั่งยืนอันดับหนึ่งของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร เดินหน้าส่งเสริมการตัดอ้อยสด ย้ำจุดยืนการเป็นผู้บุกเบิกรับซื้อใบอ้อยที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 พร้อมส่งแคมเปญ “นะโม ตัดสด” คาถารักษ์โลก ซึ่งเป็นคาถาแห่งการเริ่มต้นที่ยั่งยืน เพื่อสื่อถึงการเริ่มต้นที่ดี และความตั้งใจที่จะรณรงค์ให้เกษตรกรเริ่มต้นฤดูหีบอ้อยตั้งแต่เดือนธันวาคมในปีนี้โดยคำนึงถึงการตัดอ้อยสดสะอาด คุณภาพดี เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มรายได้จากการขายใบอ้อยเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งเป็นพลังงานทดแทนที่ผลิตมาจากภาคเกษตรของไทย
นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า “กลุ่มมิตรผลเป็นผู้นำในธุรกิจน้ำตาล และพลังงานทดแทนที่คำนึงถึงการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญและรณรงค์ให้เกษตรกรตัดอ้อยสดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง มุ่งหวังที่จะลดปริมาณอ้อยไฟไหม้ ควบคู่กับการสร้างชีวิตความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมที่ดี ผ่านการส่งเสริมความรู้และทักษะด้านการทำไร่อ้อยสมัยใหม่ “มิตรผล โมเดิร์นฟาร์ม” มานานกว่าทศวรรษ เริ่มตั้งแต่การวางผังแปลง การปรับปรุงดิน การปลูก ดูแลรักษาให้อ้อยมีผลผลิตที่ดี จนถึงการเก็บเกี่ยว โดยนำนวัตกรรมเทคโนโลยีและการบริหารจัดการเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ช่วยลดต้นทุน และช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน”
นอกจากความพยายามที่จะส่งต่อองค์ความรู้ด้านเกษตรสมัยใหม่ “มิตรผล โมเดิร์นฟาร์ม” ให้แก่เกษตรกรไทยมากว่า 10 ปีแล้ว กลุ่มมิตรผลยังเป็นผู้บุกเบิกแนวทางการรับซื้อใบอ้อยจากเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง รวมปริมาณใบอ้อยที่รับซื้อทั้งสิ้นกว่า 1.7 ล้านตัน สร้างรายได้ให้เกษตรกรไปแล้วกว่า 2.5 พันล้านบาท ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มจากการขายใบอ้อยเท่านั้น แต่ยังสร้างความตระหนักรู้และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้นได้ ร่วมสร้างพลังงานทดแทนด้วยการนำใบอ้อยมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าชีวมวล รวมถึงส่งเสริมในการนำใบอ้อยบางส่วนไปใช้คลุมดินเพื่อเป็นปุ๋ยอินทรีย์และเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดินตามธรรมชาติ โดยในฤดูหีบ 2567/2568 นี้ กลุ่มมิตรผลมีนโยบายรับการซื้อใบอ้อยในราคาตันละ 900 บาท และตั้งเป้ารับซื้อถึง 700,000 ตัน
ทั้งนี้ การเผาในภาคเกษตรเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดสถานการณ์ฝุ่น กลุ่มมิตรผล ซึ่งดำเนินธุรกิจอยู่ในภาคเกษตรของไทยได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขสถานการณ์นี้ผ่านแนวทางการทำเกษตรสมัยใหม่มาโดยตลอด นอกจากนี้ ยังได้มีความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ตั้งแต่ภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นำชุมชน และชาวไร่อ้อยในพื้นที่ อาทิ การร่วมมือกับมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ และจังหวัดกาฬสินธุ์ ในการดำเนินงานวิจัย เพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรสามารถนำเทคโนโลยีไปใช้ในการทำไร่อ้อยได้โดยไม่เผา ทั้งยังสามารถพัฒนาคุณภาพและปริมาณผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงจับมือกับหน่วยงานภาครัฐและผู้นำชุมชนในจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดไฟไหม้ในไร่อ้อยแบบบูรณาการ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาและป้องการเกิดอ้อยไฟไหม้ได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
“นะโม ตัดสด” คาถาแห่งการเริ่มต้นที่ยั่งยืน
เพื่อสร้างสีสันในการรณรงค์ตัดอ้อยสดให้เกษตรกรได้รับรู้และเข้าใจประโยชน์ของการตัดอ้อยสด รวมถึงสร้างการรับรู้เป็นวงกว้างในสังคมตลอดฤดูกาลหีบอ้อย 2567/2568 นี้ กลุ่มมิตรผล ได้สร้างสรรค์ไอเดียการสื่อสารกับเกษตรกรผ่านแคมเปญ “นะโม ตัดสด” โดยสื่อถึงความตั้งใจในการเปิดฤดูกาลผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยคาถาแห่งการเริ่มต้นที่ยั่งยืนที่มุ่งหวังให้เกษตรกรคำนึงถึงการตัดอ้อยสดมากขึ้นเพื่อช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ช่วยเรา ช่วยไร่ และช่วยโลก
การรณรงค์ตัดอ้อยสดผ่านการรับซื้อใบอ้อยของกลุ่มมิตรผล ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์การสร้างความยั่งยืน “Mitr Phol Triple Grows: Grow for Generation, Grow for Green, Grow Together” เพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกมิติทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างคุณค่าสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับสังคมไปด้วยกัน