มูลนิธิฯ อีสท์ เวสท์ ซีด มอบเงินทุนแก่มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ร่วมสร้างสังคมเกษตรกรไทย ให้เติบโตแบบยั่งยืน

มูลนิธิฯ อีสท์ เวสท์ ซีด มอบเงินทุนแก่มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ร่วมสร้างสังคมเกษตรกรไทย ให้เติบโตแบบยั่งยืน

 


บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัดหรือเมล็ดพันธุ์ตราศรแดง ได้จัด “พิธีมอบเงินทุนของมูลนิธิอีสท์ เวสท์ ซีด (ประเทศไทย) และ มูลนิธิเมล็ดพันธุ์คุณภาพเพื่อการแบ่งปันให้แก่มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ” เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,521,741.78 บาท โดยมี Mr. Henk Hermans – Regional Head, Asia, Group Commercial – Sales, Ms. Maaike Groot – Global Head of Communications and Public Affairs และคุณรานีวรรณ รามศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จํากัด เป็นตัวแทนมอบ และมีท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ ประธานกรรมการมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ พร้อมทั้งคณะเป็นผู้รับมอบ ณ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567

นอกจากพันธกิจหลักของบริษัท ที่มุ่งส่งมอบเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงและองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรแล้ว อีสท์ เวสท์ ซีด ยังให้ความสำคัญถึงการพัฒนาต่อยอดด้านการเกษตรและคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยจึงได้จัดตั้ง 2 มูลนิธิ ได้แก่
มูลนิธิเมล็ดพันธุ์คุณภาพเพื่อการแบ่งปัน  ก่อตั้งเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2554 และเริ่มดำเนินงาน ตั้งแต่ปี 2556 ถึง 2559 โดยได้จัดทำโครงการส่งเสริมอาชีพการผลิตเมล็ดพันธุ์ผักในพื้นที่ภูฟ้า จ.น่าน กิจกรรมหลักคือ ยกระดับความรู้ในการผลิตเมล็ดพันธุ์ผักคุณภาพดีให้เกษตรกรเก็บไว้ใช้เอง รวมทั้งสร้างอาชีพการผลิตเมล็ดพันธุ์ผักแก่เกษตรกรในพื้นที่ ได้แก่กวางตุ้ง บวบเหลี่ยม บวบหอม แฟง น้ำเต้า พันธุ์พื้นเมือง

จากการที่มูลนิธิฯเข้าไปส่งเสริมทำให้เกษตรกรมีความรู้ที่ถูกต้องในการผลิตเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพมากขึ้น มีการอบรมเกษตรกรให้เรียนรู้ระบบบันทึกบัญชีเบื้องต้น ทำให้เกษตรกรมีความเข้าใจและบริหารจัดการรายรับรายจ่ายได้อย่างเหมาะสม เกษตรกรสามารถปลูกผักไว้บริโภคภายในครัวเรือน และยังนำไปจำหน่ายในชุมชน รวมทั้งเมล็ดพันธุ์ที่ผลิตได้ยังนำมาจำหน่ายให้กับทางมูลนิธิ ฯ ได้อีกด้วย

ตลอดระยะเวลาในการดำเนินงานในโครงการมีเกษตรกรเข้าร่วมทั้งหมด 171 คน เกษตรกรได้นำเมล็ดพันธุ์ที่ผลิตได้มาจำหน่ายให้กับทางมูลนิธิ ฯ หลังจากนั้นมูลนิธิ ฯ ได้ทำการจำหน่ายให้กับทาง บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด เพื่อทำการปรับปรุงคุณภาพของเมล็ดพันธุ์และทำการบรรจุจำหน่ายภายใต้มูลนิธิ ฯ โดยรายได้ที่ได้จากการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์จากโครงการนี้ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ได้บริจาคเงินให้กับมูลนิธิ ฯ เพื่อใช้ในการดำเนินงานเพื่อการส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรกร โดยรายได้ที่เหลือหลังจากเสร็จสิ้นโครงการ คือ 873,403.10 บาท  และในปี พ.ศ. 2558 ได้จัดตั้งมูลนิธิอีสท์ เวสท์ ซีด (ประเทศไทย) หรือเดิมชื่อ “มูลนิธิศรแดงปันกันปลูก” กิจกรรมหลักมูลนิธิ ฯ คือสนับสนุนการถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการเกษตรให้แก่พนักงานของบริษัทฯ รวมทั้งเกษตรกรในพื้นที่อำเภอไทรน้อย โดยบริษัทฯ ได้สนับสนุนเมล็ดพันธุ์เพื่อดำเนินงานในกิจกรรม ผลผลิตที่ได้จากการถ่ายทอดความรู้ให้แก่พนักงานและเกษตรกรในชุมชนและนำมาจำหน่ายเป็นรายได้เข้ามูลนิธิ ฯ โดยมีรายได้ที่เหลือคือ 648,338.68 บาท

และในปีนี้ ทางคณะกรรมการของมูลนิธิเมล็ดพันธุ์คุณภาพเพื่อการแบ่งปัน และมูลนิธิอีสท์ เวสท์ ซีด (ประเทศไทย) ได้มีมติที่จะยุติกิจกรรมของทั้งสองมูลนิธิ ฯ และเลิกมูลนิธิ ตามลำดับ โดยพิจารณาจากการดำเนินงานและกิจกรรมของทั้งสองมูลนิธิ ฯ ภายหลังจากที่โครงการส่งเสริมอาชีพการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชผักในพื้นที่ภูฟ้าสิ้นสุดลงในปี 2559 และการดำเนินงานของมูลนิธิอีสท์ เวสท์ ซีด (ประเทศไทย) สิ้นสุดในปี 2560

ทางคณะกรรมการของมูลนิธิ ฯ จึงเห็นชอบที่จะส่งต่อเงินทุนของทั้งสองมูลนิธิฯ รวมทั้งหมด 1,521,741.78 บาท ให้กับมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ที่มีวัตถุประสงค์หลักสอดคล้องกับสองมูลนิธิ ของอีสท์ เวสท์ ซีด นั่นก็คือ การต่อยอดสร้างสังคมเกษตรกรไทย ให้เติบโตแบบยั่งยืน

You May Have Missed!

1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
“ทีเส็บ วีซ่า” ชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์ไมซ์เหนือระดับ  พร้อมสิทธิประโยชน์-ประสบการณ์สุดพิเศษในไทย ผ่านบัตร “Thailand MICE Visa Prepaid Card” เพียงใบเดียว
0 Minutes
ข่าวประชาสัมพันธ์
กิ่งกาชาดอำเภอแม่สายตั้งโรงครัว เตรียมอาหารและน้ำดื่ม ให้ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม และเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานจากหน่วยงานต่างๆ ช่วยเหลือประชาชน
0 Minutes
สังคม
พบปะสังสรรค์ และพูดคุยหารือเรื่องข้อกฎหมาย 
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
องคมนตรี มอบรางวัล THAILAND MORAL AWARDS 2023 เชิดชูเกียรติ สื่อ บุคคล ชุมชนและองค์กร ที่สร้างแรงกระตุ้นและแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วนของสังคม ย้ำเป็นก้าวสำคัญให้คนไทยตระหนักถึงการทำความดีว่าเป็นสิ่งที่ทำได้จริง และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้เป็นรูปธรรม