เครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคม จังหวัดร้อยเอ็ด รุดตรวจสอบโครงการก่อสร้าง ระบบประปาเทศบาลตำบลโพนทราย

หลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่ามีการก่อสร้างเสร็จสิ้นโครงการฯ มาหลายปี แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่อย่างใด ทิ้งไว้เป็นอนุสาวรีย์รกร้างมานานปี

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. ดร.อุปกรณ์ ดีเสมอ ประธานเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดร้อยเอ็ด มอบหมายให้ นายยงพันธ์ พันธ์ดงยาง รองประธานเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดร้อยเอ็ดและคณะ ลงพื้นที่ อำเภอโพนทราย บริเวณ สถานที่ก่อสร้างตามโครงการก่อสร้างระบบประปาเทศบาลตำบลโพนทราย หมู๋ที่ 1-2 ตำบลโพนทราย อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อตรวจสอบโครงการก่อสร้าง ระบบประปาเทศบาลตำบลโพนทราย หลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่ามีการก่อสร้างเสร็จสิ้นโครงการฯ มาหลายปี แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่อย่างใด ทิ้งไว้เป็นอนุสาวรีย์รกร้างมานานปี ตามป้ายประกาศ สร้างด้วยงบประมาณปี 2550 กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โดยชาวบ้านกลุ่มผู้ร้องได้กล่าวว่า ระบบประปาแห่งนี้ได้มีการก่อสร้างแล้วเสร็จมาตามโครงการฯ มี 2 จุด ( จำนวน 2 ระบบ) เพื่อจ่ายน้ำระบบประปาให้แก่ชาวบ้าน หมู่ที่ 1-2 ตำบลโพนทราย แต่หลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จมานานหลายปี กลับไม่มีการจ่ายระบบน้ำประปาแต่อย่างใด ไม่มีระบบท่อส่งน้ำหลัก เพื่อจ่ายน้ำให้แก่ชาวบ้านตามหลังคาเรือน ดังนั้น ชาวบ้านทุกหลังคาเรือนต้องติดตั้งระบบน้ำประปาบาดาลหรือน้ำใต้ดินใช้เอง ทุกหลังคาเรือน โชคดีที่มีน้ำใต้ดินอยู้ตื้นคือ ประมาณไม่เกิน 10 เมตร ก็จะถึงน้ำใต้ดินซึ่งสามารถนำมาใช้อุปโภค และบริโภค ได้ จากเหตุการดังกล่าวจึงได้ตั้งข้อสงสัยว่า ทางเทศบาลตำบลโพนทรายก่อสร้างตามโครงการมาเพื่ออะไร สอบถามผู้บริหารแล้ว นานหลายปีก็ยังไม่ได้รับคำตอบ จนปัจจุบันก็ยังคงเป็นอนุสาวรีย์หอถังเก็บน้ำ และอาคารเครื่องมืออุปกรณ์ บ่อพักน้ำทิ้งรกร้าง อยู่เช่นเดิม จึงได้แจ้งมายังคณะกรรมการเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดร้อยเอ็ด และ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อที่จะให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลเพื่อที่จะสามารถให้ใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และเป็นประโยชน์แก่ชาวบ้านและคุ้มค่าในการใช้เงินภาษีของประชาชนมาดำเนินการจัดสร้าง และเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนมีน้ำอุปโภค – บริโภค และปศุสัตว์ อย่างเพียงพอในทุกฤดูกาล และอำเภอโพนทรายอยู่ห่างจากจังหวัดร้อยเอ็ด กว่า 80 กิโลเมตร จึงทำให้ดูเหมือนว่าอยู่ห่างไกลกันมาก ทำให้เหมือนว่ามีการสื่อสารกับจังหวัดได้ยุ่งยาก
นายยงพันธ์ พันธ์ดงยาง รองประธานเครือข่าย ฯ กล่าวว่า คณะกรรมการฯเครือข่ายฯ ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบตามคำร้องเรียนของประชาชน ที่มีความตระหนักรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชน เพื่อให้ชาวบ้านได้รับประโยชน์จากการก่อสร้างตามโครงการฯดังกล่าว จึงได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ได้มาจับผิดหน่วยงานใดหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ หลังจากที่ คณะกรรมการฯ ได้รับข้อมูลครบถ้วน ก็จะได้รายงานผลให้กับ ทาง กองทุน ป.ป.ช. และ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ตามลำดับ ต่อไป

ภาพ : คมกฤช พวงศรีเคน
รายงาน : คณิต ไชยจันทร์