เสริมแกร่งเศรษฐกิจท้องถิ่น กฟผ. สนับสนุน กรมประมง สร้างโรงเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม หวังเพิ่มผลผลิตเป็นของดีเขื่อนอุบลรัตน์
กฟผ. สนับสนุนกรมประมง มอบงบประมาณ 4.4 ล้านบาท พัฒนาโรงเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ ส่งเสริมอาชีพ และเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เข้มแข็ง สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชนอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 นายทิเดช เอี่ยมสาย รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง ร่วมลงนามในพิธีลงนามความร่วมมือและมอบงบประมาณสนับสนุนก่อสร้างโรงเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม จำนวน 4.4 ล้านบาท ให้กับศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่น (ศปจ.ขอนแก่น) เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้และส่งเสริมอาชีพจากกุ้งก้ามกราม ซึ่งประกอบด้วย โรงเพาะกุ้งก้ามกรามซึ่งติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา และมุมให้ความรู้และส่งเสริมอาชีพจากกุ้งก้ามกราม เพื่อให้แก่วิสาหกิจชุมชนเพื่อนำไปพัฒนาเป็นธุรกิจท้องถิ่น ยกระดับการบริหารการประมงในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ โดยมีนายชาญชัย วิทยาภรณ์ ปลัดอำเภออุบลรัตน์ นายวรัณยู ขุนเจริญรักษ์ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่น นายเสริมพงศ์ วิชิตเนติชัย ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำและพลังงานหมุนเวียน ร่วมงาน ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่น ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
จากนั้น กรมประมง โดย ศปจ.ขอนแก่น ได้นำคณะร่วมกันปล่อยกุ้งก้ามกรามจำนวน 3 ล้านตัว เพื่อเพิ่มผลผลิตในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ให้เป็นแหล่งอาหารที่มั่นคง ภายใต้โครงการเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามและของดีอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมมากมาย อาทิ การประกวดกุ้งก้ามกรามขนาดใหญ่แบบมีชีวิตที่จับได้จากเขื่อนอุบลรัตน์ การแข่งขันประกวดการประกอบอาหารจากวัตถุดิบกุ้งก้ามกราม การประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ “วิถีชีวิตชาวประมงเคียงคู่เขื่อนอุบลรัตน์” การประกวดวาดภาพระบายสีของนักเรียนในหัวข้อ “วิถีชีวิตชาวประมงเขื่อนอุบลรัตน์” การจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ประมง การจัดแสดงนิทรรศการประมงเพื่อให้ความรู้และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากร และกิจกรรมล่องเรือชมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ชุดที่ 1 ขนาดกำลังผลิต 24 เมกะวัตต์ ซึ่งได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ไปแล้ว เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กฟผ. ยังมีแผนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำฯ ชุดที่ 2 ขนาดกำลังผลิต 60 เมกะวัตต์ ต่อที่เขื่อนอุบลรัตน์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเสนอให้บรรจุในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับใหม่ (PDP2024) เพื่อเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี ค.ศ. 2050 ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่รอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนและท้องถิ่นอย่างยั่งยืนต่อไป