ผบ.ฉก.นราฯลงทุนลุยน้ำเองช่วยอพยพชาวระแงะ ที่มีปริมาณน้ำฝนตกหนักถึง 631.2 ม.ม.มากเป็นประวัติกาล
รายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุดปริมาณน้ำท่วมขังพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของประชาชน มีปริมาณน้ำท่วมขังค่อยๆสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ โดยอำเภอระแงะ มีปริมาณฝนตกหนักสุดของ จ.นราธิวาส วัดได้ 631.2 ม.ม. รองลงมาคือ อ.ยี่งอ วัดได้ 495.2 ม.ม. ส่วนปริมาณฝนที่ตกลงมาอันดับที่ 3 คือ อ.รือเสาะ วัดได้447.4 ม.ม. ซึ่งถือว่าตกหนักที่สุดมากเป็นประวัติกาล ส่วนพื้นที่อำเภออื่นๆ มีปริมาณน้ำฝนวัดได้เฉลี่ยกว่า 200 ถึง 300 ม.ม. ซึ่งพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังหนักที่สุดเป็นอำเภอที่มีลำคลองต่อเชื่อกับแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย คือ อ.ระแงะ รือเสาะ แว้งและสุไหงโก-ลก จากผลพวงของปริมาณน้ำที่ค่อยๆระบายลงสู่แม่น้ำสายหลัก เพื่อระบายลงสู่ทะเลด้านปากอ่างของพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาสและตากใบ
ซึ่งล่าสุดทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส ได้รับรายงานสภาวะน้ำท่วมขังในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ในเบื้องต้นรอการสำรวจของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของแต่ละอำเภอรายงานเพื่อความชัดเจนเข้ามาอีกครั้ง ซึ่งมีจำนวนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมขังในละลอกที่ 3 ในพื้นที่ 48 ตำบล 240 หมู่บ้าน 23 ชุมชน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 40,000 คน โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาทั้ง 3 เขต รวม 11 โรง ต้องประกาศปิดการเรียนการสอนฉุกเฉิน
ล่าสุด พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 45 ลุยน้ำท่วมขังที่กระแสน้ำไหลเชี่ยวกลากและมีระดับสูงโดยเฉลี่ย 1 เมตร พร้อมเรือและอุปกรณ์การช่วยเหลือ คือ เชือก ฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกลากเข้าไปให้การช่วยเหลืออพยพชาวบ้าน ที่หมู่บ้านไทย ม.3 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ เนื่องจากหมู่บ้านดังกล่าวถือว่าอยู่ในที่ลุ่มต่ำ มีสภาวะน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากผลพวงของคลองตันหยงมัส ที่มวลน้ำกำลังระบายลงสู่แม่น้ำบางนรา และการลงพื้นที่ของ พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียน ผบ.ฉก.นราธิวาส ในครั้งนี้ ทราบว่า การให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมียุทโธปกรณ์ไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลืออพยพชาวบ้าน อาทิ เรือติดเครื่องยนต์ที่มีความจำเป็นต้องขับฝ่ากระแสน้ำเข้าไปช่วยเหลือ จึงได้เตรียมประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อขอสนับสนุนเข้าพื้นที่เป็นการเพิ่มเติม
ด้าน น.ส.จิดาภา อยู่ดี ชาวบ้านไทยได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวในระหว่างเดินออกจากบ้านที่น้ำท่วมขังสูง ว่า น้ำมันมาไวตอนแรกแค่เข่าแล้วเรายกของขึ้นไว้ที่สูง ประมาณในช่วงเวลา 3 ทุ่ม พอเวลา 5 ทุ่มน้ำมันขึ้นเรื่อยๆ เอาดินสอขีดไว้มันขึ้นตลอด พอน้ำขึ้นเรายกของหนีน้ำแล้วต่อมายกขึ้นไม่ไหว ต้องเปลี่ยนมาลากเอาของขึ้นถนน จนน้ำขึ้นมากๆเลยไม่เอาอะไรยอมทิ้งแล้วขึ้นไปอยู่บนถนน
นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ