อดีตประธานที่ปรึกษาบริษัทจัดหางาน แนะรัฐบาลต้องมีแผนมาตรการอพยพชัดเจน และเร่งอพยพแรงงานไทยด่วน หวั่นช้ายิ่งสูญเสีย

สถานการณ์สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ในขณะนี้ ยังคงรุนแรงและมีผู้บาดเจ็บ ผู้สูญหาย และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมถึงส่งผลกระทบต่อแรงงานไทย ที่ทำงานอยู่ที่อิสราเอล เกือบ 30,000 ชีวิต

นายจักรกฤษณ์ สุวรรณสาร อดีตประธานที่ปรึกษา บริษัท จัดหางาน เงินและทองพัฒนา จำกัด และที่ปรึกษาสมาคมจัดหางานไปทำงานในต่างประเทศ เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงการอพยพแรงงานในอดีตเมื่อปี54 ที่รัฐบาลสมัยนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี สั่งให้ตนอพยพแรงงานไทยในประเทศลิเบีย ที่เกิดสงคราม ในขณะนั้นกลับไทยได้สำเร็จ อย่างรวดเร็ว จึงขอแนะนำรัฐบาลไทยว่า ตอนนี้มีทางเดียวที่จะต้องทำให้เร็วที่สุด คือทางรัฐบาล ต้องเตรียมแผนการอพยพอย่างชัดเจน ต้องมีฐานข้อมูล ตั้งแต่แผนที่ตั้งของแคมป์คนงานว่าอยู่ที่ไหน จำนวนแรงงานอยู่ตรงไหน เท่าไหร่ จึงจะสามารถส่งรถไปรับมาศูนย์อพยพได้ ซึ่งรัฐบาลควรจะต้องไปจัดตั้งศูนย์อพยพเพื่อรองรับแรงงาน โดยการอพยพจะต้องส่งเจ้าหน้าที่​จากกระทรวง​แรงงาน และกระทรวงการต่างประเทศเข้าไปในอิสราเอล​ เพื่อไปช่วยสถาน​ทูต​ ช่วยทูตแรงงาน ในการอพยพนำแรงงานกลับ

ทั้งนี้ ต้องมีแผนงานอพยพให้ชัดเจน โดยจะต้องอพยพเที่ยวเดียว คือ บินตรงจากกรุงอัมมาน ถึง กรุงเทพฯ ไม่แวะที่ไหนทั้งสิ้น อาหารการกินต้องเตรียมพร้อม แรงงานห้ามถือกระเป๋าเกินคนละ 5 กก. และมองว่าหนทางที่จะออกได้เร็วที่สุด ก็คือเดินทางออกจากประเทศอิสราเอล มาที่พรหมแดนประเทศจอร์แดน​ และเดินทางจากรถยนต์ไปยังกรุงอัมมานเพื่อรอขึ้นเครื่องบินที่รัฐบาลจะส่งไปรับโดยจะต้องเป็นเครื่องบินลำใหญ่และวันนึงต้องไปรับได้5เที่ยว โดยกระทรวงการต่างประเทศจะต้องประสานงานกับรัฐบาลจอร์แดนเพื่อขออนุญาตยกเว้นการลงตราประทับวีซ่าแรงงานเนื่องจากแรงงานมีจำนวนเยอะและเป็นการอพยพ

และถ้าหากรัฐบาลเห็นความสามารถและความสำเร็จของตนที่ในปี54 เคยช่วยนำแรงงานกลับจำนวนเกือบสองหมื่นคน กลับถึงประเทศไทยภายในไม่เกิน10วัน ในช่วงสงครามลิเบีย ถือว่าเร็วพอสมควร และตนก็ยินดีและพร้อมจะช่วยประสานงานหรือดำเนินการนำแรงงานกลับไทย ตนก็พร้อมจะช่วย และอยากจะแนะนำรัฐบาล หากส่งแรงงานไทยไปทำงาน โดยไม่มีแผนการอพยพในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ​ หรือสงคราม ก็จะต้องรับผิดชอบในการอพยพแรงงานไทยกลับโดยด่วน

และอยากฝากถึงรัฐบาลชุดปัจจุบัน ขอให้ชดใช้เงิน จำนวนกว่า200ล้านบาท ที่ตนได้ออกค่าใช้จ่ายไปรับแรงงานไทยในลิเบียที่เกิดสงครามเมื่อปี54ที่รัฐบาลในยุค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังไม่ได้จ่ายเงินให้ตน จนต้องฟ้องศาลปกครองกลางแล้วและศาลให้ชนะคดี แต่ตนได้อุธรณ์คำสั่งเนื่องจากจำนวนเงินที่ศาลสั่งให้รัฐบาลจ่ายไม่ถึงตามที่ตนต้องจ่ายจริงไป