สพภ. ลงนามบันทึกความเข้าใจ ระหว่างชุมชนและผู้ประกอบการภายใต้
“โครงการยกระดับสินค้าชุมชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ด้วยวิธีการที่เหมาะสม”
วันที่ 18 ส.ค.66 ที่ห้องประชุมปีติพงศ์พึ่งบุญ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) ชั้น 9 อาคารB ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นางสุวรรณา เตียรถ์สุวรรณ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) และสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ในฐานะหน่วยงานซึ่งได้รับการคัดเลือกเป็นที่ปรึกษายกระดับสินค้าชุมชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ด้วยวิธีการที่เหมาะสม จากสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) ร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ระหว่างชุมชนและผู้ประกอบการภายใต้ “โครงการยกระดับสินค้าชุมชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ด้วยวิธีการที่เหมาะสม”
สำหรับโครงการยกระดับสินค้าชุมชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ด้วยวิธีการที่เหมาะสมเกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพชุมชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ เพื่อนำไปสู่การยกระดับการผลิตสินค้า และต่อยอดในการยกระดับการผลิตสินค้าตามหลักการ BEDO-BCG ให้กับชุมชน ด้วยวิธีการจับคู่ธุรกิจ โดยมุ่งเน้น 3 กลุ่มสินค้าที่มีฐานทรัพยากรอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือโดยรอบ ได้แก่ 1) กลุ่มกาแฟ น้ำผึ้ง 2) กลุ่มอาหาร สมุนไพร และ 3) กลุ่มภาชนะ สินค้าจากวัสดุธรรมชาติ และเพื่อเป็นการดำเนินการยกระดับสู่การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching ให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผล และประโยชน์สูงสุด ทาง สพภ. ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่การอบรมบ่มเพาะชุมชน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการดำเนินการพัฒนาบุคลิกภาพ และเทคนิคการนำเสนอแผนธุรกิจ การนำเสนอแผนธุรกิจ (Pitching) การจัดเวทีจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) และการประกวตแข่งขันแผนธุรกิจระหว่างชุมชน BEDO และผู้ประกอบการ อันนำมาสู่การลงนาม MOU ในวันนี้ ซึ่งคู่ธุรกิจที่ได้รางวัลอันตับ 1 – 3 ก็ได้มาร่วมพิธีลงนามMOU วันนี้ ประกอบด้วยคู่ธุรกิจที่ชนะเลิศ : วิสาหกิจชุมซนเกษตรอินทรีย์แม่จริม จ.น่าน และ บริษัท ปิยะดล จำกัด คู่ธุรกิจรองชนะเลิศอันดับ 1 : วิสาหกิจชุมชนโลกยิ้ม จ.สุพรรณบุรี และ บริษัท กษมา เฮลิคอปเตอร์ จำกัด คู่ธุรกิจรองชนะเลิศอันดับ 2 : วิสาหกิจชุมชนกาแฟอินทรีย์รักษาป่าบ้านผาแดงหลวง จ.เชียงรายและวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทำสวนเพื่อการผลิตและแปรรูปผลผลิตเกษตร จ.ลำพูน โดยหลังจากลงนาม MOU แล้ว BEDO ก็จะมีการติดตามติดตามผลการดำเนินงานความร่วมมือ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลการดำเนินงานอย่างแท้จริง