สสท. มอบเงินอุดหนุน สสจ.ร้อยเอ็ดกว่า แสนบาท สัมมนาปัญหากฎหมายสหกรณ์ทุกประเภท
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานฯ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) เป็นประธานเปิด และบรรยายพิเศษ พร้อมทั้งมอบเงินอุดหนุน จำนวน 136,000 บาท แก่สันนิบาตสหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ด (สสจ.ร้อยเอ็ด)ซึ่งเป็นผู้จัดโครงการสัมมนา”ปัญหาสหกรณ์ทุกประเภทในจังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อแก้ไขปรับปรุงกฎหมายสหกรณ์”และ ” แผนพัฒนาการสหกรณ์ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2566 – 2570) ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี” จัดโดย ณ ห้องประชุมชั้น 2 สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขร้อยเอ็ด จำกัด ผู้เข้าร่วมสัมมนา 200 คน
นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม กล่าวว่า สหกรณ์เป็นองค์กรการเงินฐานรากประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของคนที่มีอุดมการณ์ และแนวคิดร่วมกันที่จะแก้ไขปัญหาจากการประกอบอาชีพหรือปัจจัยในการดำเนินชีวิตที่เหมือนกันรวมตัวกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์บริหารงานโดยคณะกรรมการดำเนินงานจึงถูกคาดหวังจากบรรดาสมาชิกว่าจะต้องทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนกิจการของสหกรณ์ห้บรรลุเป้าหมายสูงสุด คณะกรรมการจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพในการบริหารเพื่อนำพาสหกรณ์ให้มีความเจริญก้าวหน้ามั่นคงและยั่งยืนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเป็นที่ศรัทธาแก่สมาชิก ทั้งนี้ ศักยภาพของคณะกรรมการบริหารกิจการสหกรณ์ที่จำเป็นต้องมีควบคู่กับทักษะในด้านอื่น ๆ คือ การมีองค์ความรู้ในด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการบริหารกิจการสหกรณ์
อย่างไรก็ดีในปัจจุบันกฎหมายได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของสังคม ส่งผลให้คณะกรรมการบริหารหรือผู้ปฏิบัติงานต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงไปของกฎหมายเพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างถูกต้องโดยเฉพาะในประเด็นนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ เนื่องจากเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบหลักของกรรมการดำเนินงานและเจ้าหน้าที่สหกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังและความรอบคอบเพื่อแก้ปัญหาของสมาชิก เพราะหากมีการปล่อยปละเลย กรรมการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์อาจกลายเป็นผู้ทำละเมิดต่อสหกรณ์อันนำมาซึ่งความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อสหกรณ์ได้ในอนาคตการเข้าใจในหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำนินธุรกิจสหกรณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่จะทำให้การบริหารงานสหกรณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งแผนพัฒนาสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์เข้มแข็งและเป็นองค์กรที่มีสมรรถนะสูงด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากต่อไป