ดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง หลังโดนมรสุมประจำฤดูทำฝนตกติดต่อกัน 5 วัน
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566 หลังกรมอุตุประกาศเตือนมรสุมประจำฤดู ส่งผลให้เกิดฝนตกติดต่อกันหลายวันตั้งแต่ช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องจนถึงวันนี้ ส่งผลให้หลายพื้นที่เกิดดินสไลด์เนื่องจากอุ้มน้ำไว้ไม่ไหว รวมทั้งน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ของจังหวัดน่าน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มชายเขาโดยที่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ดอยภูคา ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำลำน้ำสาขาของแม่น้ำน่านวัดปริมาณฝนที่ตกในช่วงกลางคืนได้ถึง 180 มิลลิลิตร ส่งผลให้เกิดดินสไลด์ปิดทับถนน หมายเลข 1256 บริเวณด้านหน้าทางเข้าที่ทำการอุทยาน โดย นายอัษฎายุทธ อินปา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา สามารถบันทึกภาพนาทีขณะเกิดดินสไลด์เอาไว้ได้ โดยเล่าว่าตอนเช้าประมาณเจ็ดโมงเช้าของวันที่ 5 สิงหาคม ได้ออกมายืนอยู่หน้าทางเข้าอุทยาน แล้วได้ยินเสียงไม้หัก และเสียงดินถล่มดังตุ๊บๆ จึงนำมือถือขึ้นมาถ่าย แต่ขณะกำลังถ่ายก็เกิดดินสไลด์ลงมาจนปิดทับเส้นทางรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ จึงแจ้งส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเจ้าหน้าที่แขวงการทางได้นำรถเครื่องจักรหนักขึ้นมาทำการเปิดเส้นทางเบี่ยงเพื่อให้รถสามารถสัญจรได้และบ้านเลขที่ 11 หมู่ 1 ตำบลบ่อเกลือใต้ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ช่วงเวลาตี 3 เกิดดินสไลด์บริเวณหลังบ้าน ชาวบ้านต้องหนีตายกลางดึงไปอาศัยนอนบ้านลูก โดยช่วงกลางวันชาวบ้านต่างมาช่วยกันขนของและรื้อบ้านเนื่องจากไม่มีความปลอดภัย โดยทางองค์การบริหารส่วนตำบลได้เร่งทำกล่องใส่หินมาวางเพื่อป้องกันดินสไลด์เพิ่ม
ด้านนางพร ลูกสาวนางเพียรที่นอนอยู่บ้านที่เกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนเนื่องจากว่าฝนมันตกหนัก แล้วดินมันชุ่มน้ำอยู่แล้ว ช่วงเวลาประมาณตีสามหรือตีสี่ดินบริเวณหลังบ้านก็ได้ถล่มสไลด์ลงไป โดยมีกอไผ่ที่ปลูกไว้ยึดป้องกันดินสไลด์ก็ได้โค่นลงไปทั้งกอ
ด้านสถานการณ์น้ำ ในลำน้ำหลายสายซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำน่านก็เกิดน้ำป่าไหลหลาก อาทิ ลำน้ำกอนที่ไหลผ่านอำเภอเชียงกลางก็เกิดน้ำป่าไหลหลากล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรริมตลิ่งจากทุ่งนากลายเป็นทุ่งน้ำ แต่ยังไม่มีรายงานเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ส่วนลำน้ำปัวที่ไหลผ่านอำเภอปัวก็เกิดน้ำป่าไหล่หลากล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรที่ลุ่มริมตลิ่ง แต่ยังไม่มีรายงานเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ประชาชนหลายคนพลิกวิกฤตเป็นโอกาสต่างออกมายกยอ หาปลา รวมทั้งออกเรือเก็บจิ้งหลีดที่หนีน้ำไปขายสร้างรายได้อีกด้วย
ด้านสถานการณ์น้ำของแม่น้ำน่าน บริเวณด้านหลังที่ว่าการอำเภอท่าวังผา มีปริมาณสูงขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤตหรืออันตราย เนื่องจากยังเหลืออีกกว่าสี่เมตรถึงจะถึงจุดวิกฤตน้ำล้นตลิ่ง ทั้งนี้ จังหวัดน่านยังไม่พบรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าว
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น