สกสว.ระดมสมองหน่วยบูรณาการประเด็นยุทธศาสตร์
หวังเป็นกลไกชี้นำสังคม-สร้างการเปลี่ยนแปลงประเทศ
สกสว.จัดเวทีระดมสมองประธานหน่วยบูรณาการประเด็นยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนา ววน. หวังเป็นกลไกทางวิชาการที่ช่วยชี้นำสังคม และมีเครือข่ายที่ร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ
รศ. ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เป็นประธานการประชุมระดมสมองประธานหน่วยบูรณาการประเด็นยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) และผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ณ โรงแรม VIE ราชเทวี เพื่อทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับความคาดหวังของหน่วยบูรณาการประเด็นยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนา วนน. (Strategic Agenda Team: SAT) และ สกสว. ต่อผลการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมถึงการสนับสนุนและบทบาทของ SAT ตลอดจนรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะต่อแนวทางการดำเนินงานของ SAT เพื่อร่วมขับเคลื่อนระบบ ววน. ต่อไป พร้อมกับรับฟังความก้าวหน้าของการสนับสนุนการขับเคลื่อนการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนปลายน้ำ
ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า ปัจจุบันภาคส่วนต่าง ๆ มีความต้องการข้อมูลทางวิชาการมากขึ้น ดังนั้นเราจะวางบทบาทของ ววน. อย่างไร ทั้งนี้ พันธกิจของ สกสว. ทำงานครบวงจร ประกอบด้วย 1. การจัดทำแผนด้าน ววน. 2. จัดสรรงบประมาณจากองทุนฯ 3. เสริมพลังและขับเคลื่อนระบบ ววน. 4. สร้างระบบการนำผลงาน ววน. ไปใช้ประโยชน์ 5. ประเมินการดำเนินงานของระบบ ววน. เพื่อยกระดับให้ดีขึ้นและสมบูรณ์ขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะต้องมีทีมวิชาการมาช่วยทำงานเพื่อให้สามารถออกแบบและทำงานได้ตรงกับแผน โดยใช้ชุดความรู้ทั้งจากทุนวิจัยเชิงมูลฐานและเชิงกลยุทธ์ รวมถึงบูรณาการกับภาคส่วนอื่น ๆ
ในปี 2567 จะมีแผนการส่งมอบงานวิจัยแก่สาธารณะของหน่วยบริหารและจัดการทุนต่าง ๆ ซึ่งเปิดข้อมูลให้ทราบถึงผลที่เกิดขึ้น และเตรียมการเก็บข้อมูลต่าง ๆ เพื่อมองไปข้างหน้า โดยจะเริ่มทำแผน ววน. ปี 2571-2575 จึงต้องมีกระบวนการทำงานที่ต่อเนื่องร่วมกับทีม SAT และสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ทั้งนี้ แผน ววน. ต้องช่วยสนับสนุนแผนแม่บทต่าง ๆ เพื่อพัฒนาประเทศด้วย เนื่องจากฝ่ายนโยบายมีความคาดหวังสูง ขณะที่ระบบงบประมาณต้องฟังนโยบายใหม่ของรัฐบาล และอาจจะต้องปรับงบประมาณเพื่อสนับสนุนงานใหม่มากขึ้น ซึ่งทีม SAT อาจช่วยชี้แจงงบประมาณในการเลือกประเด็นที่จะขับเคลื่อนโดยใช้ข้อมูลทางวิชาการสนับสนุนเพื่อให้ตรงกับความต้องการทางการเมืองและความต้องการของประเทศ
“SAT เป็นกลไกทางวิชาการของระบบ ววน. สิ่งที่ท้าทายมาก คือ จะต้องออกแบบกรอบแนวคิด เครื่องมือและวิธีการทำงาน มีองค์ประกอบที่เหมาะสมและมีหน่วยงานหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมทีม เพื่อบูรณาการโครงสร้างและระบบการทำงานของ SAT รวมถึงกำหนดเป้าหมายและประโยชน์ในมิติสังคมซึ่งยังมีความเหลื่อมกันของแนวคิด และการทำเส้นทางผลกระทบเพื่อมุ่งตอบเป้าหมายหรือความสำเร็จกับการทำงานที่ยืดหยุ่น ทั้งนี้ สิ่งที่คาดหวังว่าจะเกิดขึ้น คือ มีทีมวิชาการที่จะช่วยออกแบบแผน เป้าหมาย และคุณภาพงาน รวมทั้งเปิดพื้นที่การทำงานทางวิชาการที่มองไปข้างหน้าในเรื่องใหม่ ๆ ที่อาจปรากฏในโจทย์วิจัย และเกิดเครือข่ายที่ร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในอนาคต ใช้ประโยชน์จากผลงานได้มากขึ้น” ผู้อำนวยการ สกสว. ระบุ
ทั้งนี้ ปัจจุบัน สกสว.มี SAT รวม 17 ด้าน ประกอบด้วย การแพทย์และระบบสาธารณสุข การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สิ่งแวดล้อม มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ พลังงานคาร์บอนต่ำ ดิจิทัล-ปัญญาประดิษฐ์ อาหารแห่งอนาคต ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ยานยนต์สมัยใหม่ โลจิสติกส์และระบบรางของประเทศ การลดความเหลื่อมล้ำและการแก้ปัญหาความยากจน ภาคประชาสังคม เกษตร สังคมสูงวัย การพัฒนาพื้นที่ การศึกษาและการเรียนรู้ และการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งนี้ในปี 2567 จะมีเพิ่มอีก 2 ด้าน ได้แก่ ด้านการสร้างธรรมาภิบาล ลดปัญหาคอร์รัปชันและความรุนแรง และด้านการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม