ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 14 ติดตามขับเคลื่อนเร่งรัดและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566 ที่ห้องประชุม 1 โครงการชลประทานศรีสะเกษ นายชูชาติ รักจิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 14 เป็นประธานการประชุมการตรวจติดตามงานขับเคลื่อนเร่งรัดการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนายจำรัส สวนจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ โดยในที่ประชุมโครงการชลประทานศรีสะเกษ ได้รายงานเสนอสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษมีเขื่อนขนาดใหญ่จำนวน 2 แห่ง เก็บกักน้ำได้ 139.44 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันเก็บกักน้ำได้ 117.9 9 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 64.61% อ่างเก็บน้ำขนาดกลางจำนวน 16 แห่ง เก็บกักน้ำได้ 208.34 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันเก็บกักได้ 95.02 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 45.61% โดยปัจจุบันโครงการชลประทานศรีสะเกษได้เฝ้าระวังทั้งด้านสถานการณ์ภัยแล้ง และเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝน ปี 2566 โดยยึดหลัก 12 มาตรการ และ 6 แนวทางปฏิบัติของกรมชลประทานเป็นแนวทางปฏิบัติ รวมถึงการนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมโดยก่อสร้างระบบการผันน้ำ เพื่อช่วยเหลือราษฎรในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่โครงการก่อสร้างระบบผันน้ำจากลำห้วยสำราญไปลำห้วยทาและลำห้วยขยูง และโครงการก่อสร้างระบบผันน้ำลำห้วยสำราญรอบเมืองศรีสะเกษ (By pass) เพื่อช่วยเหลือราษฎรในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ นอกจากนั้นแล้วผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ ยังได้นำเสนอโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด ที่สำนักงาน กปร. คัดเลือกอ่างเก็บน้ำห้วยตาจู จังหวัดศรีสะเกษ เป็น 1 ใน 18 โครงการทั่วประเทศในการสืบสาน รักษา ต่อยอดดังกล่าว ในการนี้ ผู้ตรวจราชการฯ ได้กำชับให้โครงการฯ จัดทำรายละเอียดเบื้องต้นเพื่อเสนอไปยังสำนักงานบริหารโครงการ กรมชลประทาน เพื่อจะได้ศึกษาและดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษต่อไป ส่วนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำรินั้น ขอให้โครงการวางแผนด้านการใช้น้ำอย่างประหยัด ซึ่งในปี 2566 นี้อาจจะเกิดปัญหาภัยแล้งได้ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆด้วย
สำหรับการรายงานของหน่วยงานต่างๆในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ได้นำเสนอด้านเกษตรของจังหวัด สรุปผลการวิเคราะห์สินค้าเกษตรที่สำคัญของจังหวัด รายงานสถานการณ์ด้านการเกษตร การวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ ซึ่งในที่ประชุมผู้ตรวจราชการฯ ได้กำชับส่วนราชการต่างๆให้ปฎิบัติหน้าที่ในส่วนที่รับผิดชอบในการแก้ไขความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ทั้งด้านปศุสัตว์ ด้านประมง และด้านการเกษตร ฯลฯ โดยให้ยึดถือเป้าหมายและผลสำเร็จของงานเป็นหลัก และขอให้ขับเคลื่อนใน 2 ประเด็นเร่งด่วน ได้แก่ เกษตรมูลค่าสูง 1 อำเภอ 1 หมู่บ้าน 1 ขับเคลื่อน และ BCG Model ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษจะเป็นโครงการนำร่องในโครงการดังกล่าว และผู้ตรวจราชการฯ จะมาตรวจราชการเพื่อติดตามและร่วมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษอีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 นอกจากนี้ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ ยังได้นำเสนอการบริหารจัดการน้ำของลุ่มน้ำโขง ชี มูล ในรูปแบบของหุ่นจำลอง(Model) ในด้านการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจังหวัดศรีสะเกษอีกด้วย
ข่าว/ภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ