วกส. รุ่นที่ 3 ศึกษาดูงานอายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด โรงงานหนองแค จังหวัดสระบุรี

วกส. รุ่นที่ 3 ศึกษาดูงานอายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด โรงงานหนองแค จังหวัดสระบุรี

เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2566 หลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 3 นำโดยนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) และนางสาวประวีณา อินทร์ยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาบุคลากรวิจัย สวก. พร้อมผู้เข้ารับอบรมเยี่ยมชมบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด โรงงานหนองแค จังหวัดสระบุรี เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตรฯ ในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยให้เป็นผู้นำด้านการเกษตรและอาหารในระดับนานาชาติ โดยจะส่งผลในการสร้างรายได้เพิ่มให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยมีนายทองดี ปาโส กรรมการผู้จัดการ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ นายทินกร ตันติกมล ผู้จัดการโรงงาน ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

นายทองดี ปาโส กล่าวว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้านเทคโนโลยี กลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะตระหนักถึงความสำคัญให้ก้าวทันวิทยาการ บริษัทฯ จึงก่อตั้งศูนย์เทคโนโลยีและวิศวกรรมขึ้นในปี พศ. 2540 เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมจากประเทศญี่ปุ่นโดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพสูงสุดแก่ทุกโรงงานในกลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ และถ่ายทอดประสบการณ์ในประเทศไทยไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อการพัฒนาการผลิตของกลุ่มบริษัทฯในขั้นต่อไป นอกจากนี้ยังคำนึงถึงการสร้างสรรค์และการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วม และห่วงโซ่อุปทาน เพื่อส่งเสริมการสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมของอายิโนะโมะโต๊ะ

ด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เราได้ก่อตั้งศูนย์เทคโนโลยีทางอาหารขึ้นเพื่อออกแบบ วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยตั้งแต่กระบวนการคัดสรรพัฒนาวัตถุดิบที่ได้มาตรฐาน บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัยในการผลิต เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติอร่อยและเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่ลูกค้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าอย่างสูงสุด

นอกจากนี้ เรายังยึดถือและปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับการให้ความรู้ทั้งในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติแก่พนักงาน บริษัทฯ จัดให้มีอุปกรณ์และระบบป้องกัน ด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยอย่างครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานของเราทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง มีสุขอนามัยที่ดี และทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ “อุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์”