แก๊งเงินกู้นอกระบบโปรยนามบัตรหาเหยื่อเกลื่อนเมืองมุกดาหาร

เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 66 นายอดุล ศิริมันต์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองมุกดาหาร ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหารว่า แก๊งเงินกู้นอกระบบโปรยนามบัตรหาเหยื่อเกลื่อนเมือง ทำให้บ้านเมืองสกปรก เชิญชวนใช้บริการกู้เงินดอกเบี้ยสูงเกินกำหนด สร้างความเดือดร้อนรำคาญทั้งตามแหล่งชุมชน และโยนเข้าบ้านผู้คนอย่างหน้าตาเฉย ทำให้บางครอบครัวทะเลาะกันครอบครัวแตกแยก  ต่อมานายอดุล ศิริมันต์ ได้โทรหาเจ้าของที่ปรากฏในใบปลิวหรือนามบัตร ได้เปิดเผยว่า ในกรณีมีใบปลิวที่พี่น้องประชาชนได้แจ้งเข้ามามีมาตลอดในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ใบปลิวมีในโฆษณาจากเงินกู้ต่าง ๆ โดยโปรยบนท้องถนนเป็นเรื่องสร้างความรำคาญ และสร้างความสกปรกในที่พักอาศัยหรือที่สาธารณต่าง ๆ และอีกส่วนหนึ่งพนักงานงานเก็บกวาดทำความสะอาดก็บ่นทำความสะอาดยาก โปรยไปทั่วตามซอกตามซอยตามถนน เป็นปัญหาในการเก็บกวาด ทางเทศบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทางฝ่ายป้องกันก็ได้รายงานให้ผู้บริหารเทศบาลเมืองมุกดาหาร เพื่อให้ทราบถึงปัญหาความเดือดร้อน ล่าสุดได้ลงพื้นที่ตลาดเทศบาล 2 พ่อค้าแม่ค้าได้บอกว่า มาโปรยช่วงกลางคืน ช่วงไม่มีคนอยู่ มาโปรยแล้วหนีไป ไม่ได้บอกกล่าวและไม่ขออนุญาต

นายอดุล ศิริมันต์ ได้เปิดเผยอีกว่า ทางเทศบาลฯได้ติดตามสอบถาม และได้โทรไปที่เบอร์ที่มากับใบปลิว มีแผ่นสีเขียว สีชมพู สีน้ำเงิน สีแดง มีข้อความบนใบปลิว “ ทันใจเงินทุน และมีเบอร์โทรศัพท์ ”ได้โทรติดต่อไป มีการรับสายได้สอบถามว่า เป็นบริษัทมีกิจการให้เงินกู้ โดยสำนักงานอยู่ที่ บ้านคำป่าหลาย ตำบลคำป่าหลาย นอกเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร และได้แจ้งให้เจ้าของรับทราบว่า กรณีมาโปรยใบปลิว ได้จ้างคนมาโปรยและสอบถามว่า ได้รับอนุญาตหรือไม่อย่างไร แจ้งว่าไม่ได้รับอนุญาต และได้บอกไปว่าทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย ทางผู้ประกอบการก็บอกว่ารับทราบ ฉะนั้นเป็นการเจตนาที่จะทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียนเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ตามมาตรา 10 ซึ่งหากว่ามีการฝ่าฝืนและโทษมีการเปรียบเทียบปรับได้ ซึ่งปรับไม่เกิน 5,000 บาท มีข้อห้ามและบทลงโทษ และได้พูดคุยกับผู้ประกอบการแล้วให้ยุติ และเรียกเข้ามาดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย
สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องของความมั่นคงด้วย หรือว่าพี่น้องประชาชนมีข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยตนเอง จึงได้พึ่งพิงระบบการกู้เงินกับผุ้ประกอบการ การเก็บดอกต่าง ๆ ค่อนข้างสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด ฝากท่านผู้หลักผู้ใหญ่ หรือผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรงเข้ามาสอกส่องดูแลปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนด้วย

แม้ว่ารัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมีนโยบายปราบปรามหนี้นอกระบบที่คิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด โดยถือเป็นปัญหาสำคัญของประชาชน และเป็นวาระแห่งชาติ อย่างไรก็ตามปรากฏว่าในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ยังคงพบว่ามีกลุ่มแก๊งที่ทำธุรกิจปล่อยเงินกู้นอกระบบออกหากินอย่างต่อเนื่อง กระจายอยู่ในแทบจะทุกอำเภอของจังหวัดมุกดาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซาประชาชนมีรายได้ตกต่ำไม่เพียงพอใช้จ่าย ปรากฏว่าธุรกิจปล่อยเงินกู้นอกระบบยิ่งเฟื่องฟู เพราะประชาชนสามารถเข้าถึง และใช้บริการได้ง่าย แม้ว่าจะทราบดีว่าอาจจะเกิดปัญหาตามมาทั้งเรื่องดอกเบี้ยที่สูงเกินกฏหมายกำหนดจนไม่มีความสามารถในการชำระคืน และการถูกติดตามทวงหนี้โดยการข่มขู่หรือใช้ความรุนแรง

ขณะเดียวกันอยากเตือนไปถึงเจ้าหนี้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด หรือมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แอบแฝง นั้น อาจมีความผิดตามกฎหมาย พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 มาตรา 4 บุคคลใดให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ (1) เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ (2) กำหนดข้อความอันเป็นเท็จในเรื่องจำนวนเงินกู้หรือเรื่องอื่น ๆ ไว้ในหลักฐานการกู้ยืม หรือตราสารที่เปลี่ยนมือได้เพื่อปิดบังการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และ(3) กำหนดจะเอาหรือรับเอาซึ่งประโยชน์อย่างอื่นนอกจากดอกเบี้ย ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือสิ่งของหรือโดยวิธีการใด ๆ จนเห็นได้ชัดว่าประโยชน์ที่ได้รับนั้นมากเกินส่วนอันสมควรตามเงื่อนไขแห่งการกู้ยืมเงิน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับฝากถึงนายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามและกำจัดพวกปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ซึ่งกระจายอยู่ทุกจังหวัดในภาคอีสาน

ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร