“ร.อ.ธรรมนัส” ลั่น พร้อมผลักดัน “เปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดิน คทช.เป็น ส.ป.ก.” ดันจังหวัดพะเยา เป็นต้นแบบ
หากพรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงให้เป็นรูปธรรม เพื่อแก้ปัญหาความยากจนของพี่น้องประชาชน
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ณ อาคารสโมสรพนักงานเทศบาลเมืองพะเยา เครือข่ายประชาชนในพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน โดย ดร.ประพันธ์ เทียนวิหาร กรรมการผู้ทรงวุฒิในคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้จัดงานนโยบายเพื่อเกษตรกร เรื่องการเปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดิน และ คทช. เป็น ส.ป.ก. พร้อมเชิญ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 1 จังหวัดพะเยา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร. ธนสาร ธรรมสอน อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมทั้ง ผู้นำท้องถิ่น ประชาชนในพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน และ คทช. ในพื้นที่จังหวัดพะเยา ตลอดจน หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ร่วมแลกเปลี่ยนนำเสนอเป็นนโยบายเพื่อเกษตรกรอย่างกว้างขวาง ณ อาคารสโมสรพนักงานเทศบาลเมืองพะเยาอำเภอเมือง จังหวัดพะเยา
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเสวนาในวันนี้ เป็นการให้ความรู้กับพี่น้องประชาชนจังหวัดพะเยา เพื่อต้องการให้เป็นต้นแบบในการผลักดันพื้นที่ที่เป็นที่ดินของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ป่าไม้ พื้นที่เขตอุทยาน หรือพื้นที่เขตสงวนต่างๆ เช่น ที่ดินของรัฐประเภท ส.ป.ก. ที่อยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และที่ดินที่อยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงคลัง เช่นที่ราชพัสดุต่างๆ โดยเฉพาะที่ดินของรัฐ ในรูปแบบ ส.ป.ก. นั้น ทางพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการแถลงนโนบายไปแล้วว่าต้องการเปลี่ยน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนด ถามว่าได้หรือไม่ คำตอบ คือ ทำได้ มีกฎหมายรองรับ แต่ขั้นตอนกฎหมาย มีรายระเอียดปลีกย่อย จึงเป็นเรื่องของรัฐบาลชุดต่อไป ดังนั้นหากพรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นแกนนำการจัดรัฐบาลเราก็จะผลักดันให้นโยบายดังกล่าว ได้เป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ประชาชนอย่างแน่นอน
ในส่วนที่ดิน คทช. ให้เป็นส.ป.ก. ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งเช่นกัน ซึ่งที่ดิน คทช. ในตอนนี้อยู่ในความรับผิดชอบของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นจำนวนมาก ทั้ง 76 จังหวัด หากเราผลักดันเป็นความรับผิดชอบของ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้ถือสิทธิ์ดังกล่าว โดยในส่วนของที่ดิน ส.ป.ก. ตรงไหนเหมาะสมจะเป็นโฉนด ทาง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินฯก็ผลักดันให้กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบดูแล ส่วนที่ดินตรงไหนเป็นคทช. ให้กระทรวงเกษตรฯรับผิดชอบไป สิ่งเหล่านี้จะเป็นรูปธรรมและสอดคล้องกับนโยบายของพรรคฯที่เสนอออกไป
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างสำนักงานการปฏิรูปที่ดินฯ ที่กำกับดูแล ส.ป.ก.อาจจจะติดขัดข้อกฎหมายบ้าง แต่ก็เข้าใจกันอยู่แล้วว่ากฎหมายนั้นมาจากความคิดของมนุษย์ก็สามารถแก้ไขได้ โดยใช้สภาฯในการขับเคลื่อนผลักดันต่อไป
โดยหลังจากที่ประชุมได้มีการนำเสนอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจนในที่สุด ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ในเห็นชอบในการให้เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดิน และ คทช.เป็น ส.ป.ก. โดยในส่วนของการเปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดินให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินฯ นำที่ดินที่ได้มาเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไปยื่นขอหนังสือแสดงสิทธิที่ดินกับกรมที่ดิน (ที่ดินที่เกษตรกรถือครองโดยชอบด้วยกฎหมาย) แล้วโอนให้กับเกษตรกรโดยไม่ต้องเช่าซื้อ กำหนดให้ห้ามโอนภายใน 10 ปี และกำหนดการคุ้มครองให้เป็นพื้นที่เหมาะสมประกอบการเกษตรกรรม ตามผังเมืองเฉพาะ ส.ป.ก.ส่วนการเปลี่ยน คทช. เป็น ส.ป.ก. จะผลักดันให้มีการแก้กฎหมายหรือกฎกระทรวง ที่ดินรัฐ คทช.ให้เป็นเป็นที่ดิน ส.ป.ก. และให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทำการพัฒนาแหล่งน้ำ ถนน การปรับปรุงคุณภาพดิน พัฒนาอาชีพ จัดหาแหล่งเงินทุน พร้อมนำนโยบาย ตลาดนำการผลิตมาขับเคลื่อน โดยใช้เงินกองทุน ส.ป.ก. และในอนาคตจะพัฒนาที่ ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดินต่อไปอีกด้วย