พี่สาวยืนยันกระดูกที่พบเป็นของน้องชายจริง
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 66 จากกรณีชาวบ้านพบชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์ ช่วงท่อนแขนติดกับซี่โครงลำตัว และภายในบริเวณวัดยังพบอีกเป็นส่วนกระดูกสะโพก ใกล้ๆจุดที่พบยังพบว่ามีกระดูกที่ถูกขุดฝั่งดิน ซึ่งอยู่ทางด้านหลังเมรุเผาศพของวัดคำสายทองประมาณ 100 เมตรที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายเทียน บุญมาลี อายุ 81 ปี และนางทองลา บุญมาลี อายุ 71 ปี สัปเหร่อวัดคำสายทอง สามี-ภรรยา บ้านเลขที่ 8 ซอยไกรสุริยะ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โดยนางทองลา บุญมาลี อายุ 71 ปี ได้ให้การยืนยันว่า โครงกระดูก ซี่โครง และกระดูกเชิงกรานที่พบเห็นนั้นเป็นของ นายหลัด ผาละมี อายุ 56 ปี ราษฎรชาวลาว ซึ่งมาพักอาศัยอยู่กับ นางคำเป ทองเหลือง อายุ 69 ปี และได้มีอาการป่วยและเสียชีวิต เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยญาติได้นำศพ นายหลัด ฯ มาทำการฌาปนกิจ ที่เมรุของวัดคำสายทอง แต่พบว่าไฟไหม้ไม่หมดบริเวณ กระดูกซี่โครง และกระดูกเชิงกราน สัปเหร่อจึงได้ร่วมกับญาติ นำไปฝังบริเวณด้านหลังเมรุเผาศพ แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นดินแข็ง ขุดลำบาก ไม่สามารถขุดลงลึกได้ สัปเหร่อจึงได้โกรยดินบริเวณข้างเคียงกลบไว้ ในเวลาต่อมาน่าจะมีสุนัขมาคุ้ยเขี่ย และคาบชิ้นส่วนกระดูกดังกล่าวมาบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งนายเทียนฯ และนางทองลาฯ ยืนยันว่า เป็นชิ้นส่วนกระดูกของนายหลัดฯ ที่ตนกับญาติได้นำไปฝั่งกลบจริง
ด้าน นางคำเป ทองเหลือง พี่สาวผู้ตาย อายุ 69 ปี บอกว่า ศพนายหลัด ผาละมี เผาที่เมรุวัดคำสายทอง เป็นศพน้องชายจริง ซึ่งก่อนหน้านี้ไปทำงานขับรถแท็กซี่ ที่กรุงเทพ ต่อมาได้ป่วยและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมุกดาหาร และได้ผ่าตัดขาเดินไม่ได้เป็นผู้ป่วยติดเตียง ได้มาเสียชีวิตที่บ้านตนเอง และได้นำไปเผาที่วัดคำสายทองประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และภรรยานายหลัดฯ ได้นำเถ้ากระดูกบางส่วนนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน สปป.ลาว
ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร