ปชช.นราธิวาส ร้อง ผบ.ตร.โดน ตร.ยศใหญ่รังแก อ้างพัวพันค้ายา ป.ป.ส.สอบแล้วไม่ผิด โดนแกล้งต่อให้ ปปง.สอบฟอกเงิน ทำให้ธุรกิจเสียหายนับล้าน
แถมถูกยึดรถแม็คโคร,บ้านและทรัพย์สินให้ไปตรวจสอบ ซ้ำถูกยึดเงินมัดจำที่ดิน 3ลบ.ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดหรือฟอกเงิน
เมื่อวันที่ 4 พ.ย.65 นายรุสมัน บินเจ๊ะสือแม ผู้ร้องเรียนอยู่พื้นที่ ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส เดินทางมากับ ทนายความ เพื่อจะมาร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและช่วยเหลือเหยื่อหลายรายที่ได้ถูก จนท.ตร.อำเภอระแงะ กลั่นแกล้งรังแก สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 65 ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจระแงะ มาตรวจยึดรถแม็คโครขุดดินตีนตะขาบ หมายเลขจดทะเบีบน ตค 715 นราธิวาส ของนายรุสมัน ได้ถูกยึดกุญแจรถและสมุดคู่มือ โดยไม่มีการบันทึกตรวจยึดของกลางใดๆ โดยตำรวจอ้างว่าของกลางที่ตรวจยึดไป เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด
ต่อมาตำรวจชุดจับกุม ได้นำของกลางไปส่งให้ ป.ป.ส.ภาค9ตรวจสอบว่า ผู้ร้องเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดหรือไม่ ผลปรากฏว่า ทาง ป.ป.ส.ภาค9 ได้แจ้งกับผู้ร้องว่า ของกลางที่ได้ตรวจยึดมาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด แต่มีตำรวจส่งเรื่องไปให้ ปปง.ตรวจสอบต่ออีกว่า เส้นทางการเงินของผู้ร้องนั้น มีการฟอกเงินหรือไม่ ซึ่งด้านผู้ร้องต้องหยุดการทำธุรกิจมานานหลายเดือนและในขณะที่ผู้ร้องได้ทำการซื้อที่ดินกับชาวบ้านรายนึงในราคาหลายล้านบาท โดยมีการมัดจำเงินไปแล้ว3ล้านบาท ซึ่งจะต้องจ่ายเงินให้กับผู้ขาย แต่ก็ไม่สามารถจ่ายให้ได้ตามสัญญาเพราะทรัพย์สินได้ถูกอายัดไว้ตรวสอบ จึงทำให้ต้องโดนยึดเงินมัดจำไปแล้ว และผู้ขายที่ ยังโดนเรียกมาสอบที่ ของที่ดินอีกด้วย
ดังนั้นผู้ร้องและกลุ่มผู้เสียหาย พร้อมทนายความ 2 คน คือ ทนายกิตติศักดิ์ สงวนวงษ์และทนายญาณวุฒิ ติจันทึก ได้เดินทางมามอบเอกสารการเงินต่างๆกับ ทาง ปปง.ในช่วงเช้าโดยมี นายปิยะ ศรีวิกะ ผู้อำนวยการกองคดี2 และเป็นรองโฆษกประจำ ปปง.มารับเอกสารชี้แจงทรัพย์ของผู้ร้องทั้งหมด ในช่วงเช้า และต่อมาในช่วงบ่ายได้เดินทางมาที่ สนง.ตร.แห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับ ผบ.ตร.และสื่อมวลชนในวันนี้