ตร.บางสะพานน้อยซ้อมแผนโจรชิงทรัพย์ ธนาคาร รับเอเปค
วันที่ 28 ตุลาคม 2565ผู้สื่อข่าวรายงาน พ.ต.อ.ชัยรินทร์ แก้วสุวรรณ ผกก.สภ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท. ชาญศักดิ์ วงษ์สิงห์ สวป.สภ.บางสะพานน้อย พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.ปากแพรก และเจ้าหน้าที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร( ธกส.)สาขาช้างแรก ได้ร่วมกันซ้อมแผนเผชิญเหตุชิงทรัพย์ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ รับเอเปค(APEC) โดย พ.ต.ท.ชาญศักดิ์ ระบุว่า ตำรวจ สภ.บางสะพานน้อย ร่วมกันฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุชิงทรัพย์ธนาคาร แบบเสมือนของจริงขึ้น โดยจำลองเหตุการณ์ปล้นธนาคารอาคารโดยมี คนร้าย 1 คน ขับขี่รถยนต์จักรยานยนต์ไม่ทราบเลขทะเบียน มาจอดที่หน้าธนาคาร ไม่ปิดบังใบหน้า ได้วิ่งตรงเข้ามาภายในธนาคาร ก่อนจะใช้อาวุธปืนพกสั้นข่มขู่ สั่งการให้ลูกค้าที่มาใช้บริการหมอบลงกับพื้น แต่มีลูกค้า 1 คนไม่ปฎิบัติตามคำสั่งจึงถูกคนร้ายยิงเข้าที่ลำตัว 1 นัด จากนั้นคนร้ายได้ใช้ปืนบังคับข่มขู่ให้พนักงานสาวที่หน้าเคาน์เตอร์ฝากเงิน ให้นำเงินสดส่งมอบให้ โดยคนร้ายใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 2 นาที นาที ก่อนที่จะรีบวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้บริเวณหน้าธนาคารขี่หลบหนีไปตามเส้นทางถนนเพชรเกษมขาล่องใต้
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ประจำธนาคารได้โทรศัพท์ ไปยังหมายเลข 191 และหมายเลขโทรศัพท์ สภ.บางสะพานน้อยเพื่อแจ้งเหตุร้าย จากนั้นพนักงานสอบสวน พร้อมตำรวจสายตรวจ ชุดสืบสวน ได้รีบเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมวิทยุสกัดจับคนร้ายที่ขี่รถหลบหนี และสั่งการให้จุดตรวจทั้งหมดให้ทำการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดอย่างเร่งด่วน จนเวลาผ่านไป 15 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดจับรถของคนร้ายได้ ที่บริเวณถนนด้านหน้าโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งห่างจากธนาคารที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร โดยเหตุการณ์ซ้อมแผนในครั้งนี้ทำแบบเสมือนจริง ทำให้ชาวบ้านคิดว่ามีการปล้นธนาคารจริง ๆ กระทั่งเจ้าหน้าที่แจ้งภายหลังว่า เป็นการซ้อมแผนประจำปีเพื่อป้องกันเหตุปล้นธนาคาร
อย่างไรก็ตาม สำหรับการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุดังกล่าว เป็นนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7เนื่องจากการซ้อมแผนทำให้เกิดความเข้าใจว่า เมื่อเกิดเหตุจริงจะต้องปฏิบัติอย่างไร เกิดความมั่นใจ และสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง สภ.บางสะพานน้อย จะมีการซ้อมแผนลักษณะตลอดมา โดยสับเปลี่ยนหมุนเวียนสถานที่จากธนาคาร เป็นร้านทอง และร้านค้า โรงพยาบาล พร้อมทั้งมีการแจ้งไปยังประชาชนให้รับทราบก่อนว่าจะมีการซ้อมแผนล่วงหน้า นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้แจ้งเตือนไปถึงประชาชนว่า หากพบเหตุด่วนเหตุร้าย ควรตั้งสติและพยายามจดจำรูปพรรณสันฐานของคนร้ายไว้ ส่วนการสกัดจับกุม เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการติดตามจับกุมต่อไป
