เกษตรกรเร่งถอนมันหนีน้ำท่วม หลังลำห้วยทับทันล้นทะลัก ต้องเก็บขายก่อนกำหนดแม้จะขาดทุนยังดีกว่ามันแช่น้ำเน่าทิ้ง
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 ผู้สื่อรายว่า ที่บ้านตาด หมู่ 6 ตำบลตาโกน อำเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ นางนวลจันทร์ เหลาคำ เจ้าของไร่มัน ได้นำแรงงานจำนวน 20 คน เร่งถอนมันสำปะหลังที่ถูกน้ำท่วม เนื่องจากอิทธิพลของพายุฝนหลายลูก ทำฝนตกหนักและตกติดต่อกันมาหลายวัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำห้วยทับทันเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนล้นตลิ่ง เอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน โดยเฉพาะไร่มันสำปะหลัง ของนางนวลจันทร์ เหลาคำ อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 29 หมู่ 6 ตำบลตาโกน อำเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่เพิ่งลงทุนปลูกมันสำปะหลังไปได้แค่ 3 เดือนเท่านั้น ก็ต้องระดมจ้างแรงงานกว่า 20 คน มาช่วยกันถอนมันขึ้นมาก่อนกำหนด ถึงแม้ว่ามันสำปะหลังจะยังหัวเล็กยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็ต้องตาม เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้มันสำปะหลังก็จะแช่น้ำเน่าเสีย ยอมขาดทุนดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
นางนวลจันทร์ เหลาคำ เจ้าของไร่มัน กล่าวว่า เนื่องจากฝนที่ตกหนักและตกต่อเนื่องมาหลายวัน ทำให้น้ำในลำห้วยทับทันล้นทะลัก ไหลเข้าท่วมนาข้าว และไหลเข้าท่วมไร่มันสำปะหลังของตนที่ปลูกในเนื้อที่จำนวน 10 ไร่ ถูกน้ำท่วมไปทั้งหมด ตนจึงรีบระดมแรงงานกว่า 20 คน ในราคาค่าจ้างวันละ 300 บาทต่อคน เร่งถอนมันขึ้นมาบนฝั่ง ซึ่งก็เป็นไปด้วยความลำบาก เพราะระดับน้ำบางแห่งท่วมสูงถึง 1 เมตร ต้องใช้เรือในการขนบรรทุกมันสำปะหลัง คนงานก็ต้องลอยคอเข้าไปถอนมันที่แช่อยู่ในน้ำ และต้องรีบเร่งแข่งกับเวลาเพราะขณะถอนมันยังมีฝนตกลงมาอีกอย่างหนักระดับก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ ต้องใช้เวลาอีก 3 วันถึงจะถอนมันได้หมดทั้ง 10 ไร่
นางนวลจันทร์ กล่าวต่อไปว่า ตนเริ่มปลูกมันสำปะหลังมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 และประมาณเดือนพฤษภาคม 2566 ถึงจะได้เวลาเก็บกู้มันขึ้นมาขาย ลงทุนในการปลูกที่มีทั้งค่าต้นพันธุ์ ค่าไถและยกร่อง รวมทั้งค่าปุ๋ย ประมาณ 25,000 บาท แต่มันของตนมีอายุได้เพียง 3 เดือน ก็มาถูกน้ำท่วมจึงต้องจ้างคนมาช่วยถอนก่อนกำหนดขึ้นมาขาย ในราคากิโลกรัมละ 2.35 บาท แม้ว่าจะขายได้เงินครึ่งหนึ่งของเงินลงทุน แต่ก็ยังดีกว่าที่จะปล่อยให้มันสำประหลังแช่น้ำเน่าเสียไปทั้งหมด
ข่าว…..บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ
ภาพ …. ปฐมพงษ์ ธุศรีวรรณ