ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดศรีสะเกษและคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ลงเรือหางยาวสำรวจลำห้วยคล้าแก้มลิงหนองเข็งน้อย

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ที่ฝายน้ำล้นห้วยคล้า หนองเข็งน้อย ตำบลกฤษณา อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายจำรัส สวนจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดศรีสะเกษ และดร.ฐิตารีย์ ไตรสรณปัญญา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย ดร.สมเกียรติ ไตรสรณปัญญา นายกรฤต มีเกิดมูล หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการชลประทานจังหวัดศรีสะเกษ ลงพื้นที่ประชุมและรับทราบและแก้ไขปัญหาการขุดลอกลำห้วยคล้าแก้มลิงหนองเข็งน้อย ซึ่งปัจจุบันบางส่วนมีสภาพติ้นเขินและมีวัชพืชขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์บุญมี เตชะธรรมโม เจ้าอาวาสวัดป่าหนองม่วงและนายทิวา รุ้งแก้ว ประธานคณะกรรมการประสานงานเพื่อพัฒนนาจังหวัดศรีสะเกษ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกฤษณา ตำบลสำโรงตาเร็นและตำบลหัวเสือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชน ในพื้นที่ลำห้วยคล้าไหลผ่าน ร่วมประชุมและนำลงเรือหางยาวสำรวจการขุดลอกลำห้วยคล้าแก้มลิงหนองเข็งน้อย ที่ติ้นเขินและมีวัชพืชขึ้น ทั้งนี้เพื่อปรึกษาหาแนวทางในแก้ไขในการขุดลอกลำห้วยคล้าแก้มลิงหนองเข็งน้อยให้เกษตรกรในพื้นที่ได้รับประโยชน์ให้มากที่สุด และเป็นแหล่งน้ำประปาของชุมชนในพื้นที่หลายๆตำบลและส่วนราชการที่ใกล้เคียงด้วย

นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานคณะกรรมการประสานงานเพื่อพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ. 2560 ได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ตำบลหัวเสือ ตำบลสำโรงตาเจ็น อำเภอขุขันธ์บางส่วน และที่ตำบลศรีสำราญ ตำบลโพนยาง ตำบลบุสูง อำเภอวังหิน ทำให้ไร่นาได้รับความเสียหาย ภาคประชาสังคมจังหวัดศรีสะเกษจึงได้เปิดเวทีประชาคม ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่าภาวะน้ำท่วมใหญ่ครั้งนั้นมวลน้ำไหลมาจากเทือกเขาพนมดงเร็ก อำเภอภูสิงห์ ไม่สามารถระบายลงห้วยคล้าได้ มูลเหตุเพราะพื้นที่แก้มลิงของห้วยคล้าตื้นเขิน มีวัชพืชขึ้นกีดขวางทางน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก ตั้งแต่บ้านศาลาสระบาน ตำบลสำโรงตาเจ็น อำเภอขุขันธ์ จนถึงอ่างเก็บน้ำวังหิน หน้าโรงเรียนนครศรีลำดวนวิทยา ตำบลบุสูง อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ ความยาวประมาณ 8 กิโลเมตร และเหนืออ่างเก็บน้ำห้วยคล้านิคม 1 ตำบลหมากเขียบ ต่อมาทางสำนักงานชลประทานจังหวัดศรีสะเกษ ได้ออกไปทำการสำรวจพื้นที่ ได้สรุปว่าต้องใช้งบประมาณหลายร้อยล้านบาทในการขุดลอกแก้มลิงในพื้นที่ดังกล่าวทั้งระบบ

ซึ่งเกินความสามารถที่สำนักงานชลประทานจังหวัดศรีสะเกษจะดำเนินการได้ จึงได้ของบประมาณไปส่วนกลาง ถ้าการดำเนินการขุดลอกแก้มลิงห้วยคล้าประสบผลสำเร็จจะเกิดผลดีดังนี้คือ แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากที่ตำบลหัวเสือ ตำบลสำโรงตาเจ็น ตำบลสะเดาใหญ่ อำเภอขุขันธ์บางส่วน และที่ตำบลศรีสำราญ ตำบลโพนยาง ตำบลบุสูง อำเภอวังหิน แก้ปัญหาภัยแล้ง ประชาชนมีน้ำเพียงพอในการอุปโภค บริโภค และทำการเกษตร และแก้ปัญหาการบุกรุกลำห้วยและการล้มตายของสัตว์เลี้ยงของเกษตรกรตามลำห้วย และปี 2562 ทางหลวงชนบทสร้างบล๊อคคอนเวิร์ส 8 แห่ง เพื่อแก้ปัญหา ปี 2563 ได้เชิญผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มารับทราบปัญหา ปีงบประมาณ 2564 โครงการชลประทานได้จัดสรรงบประมาณ 10 ล้านบาทขุดลอกหน้าวัดพรมนิมิต และยืนหนังสือต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อของบประมาณต่อเนื่อง เพื่อดำนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2568 ปีงบประมาณ 2565 ชลประทานได้จัดสรรงบประมาณ 85 ล้านบาทขุดลอกหน้าวัดพรมนิมิตร อำเภอวังหิน ถึงฝายน้ำล้นหนองเข็งน้อยห้วยคล้า อำเภอขุขันธ์ และในปีงบประมาณ 2567 –2570 โครงการชลประทานจะจัดสรรงบประมาณ 600 ล้านบาทขุดลอดจากหน้าวัดพรมนิมิมิตร–ฝายน้ำล้นบ้านยางกุด ตำบลหมากเขียบ อำเภอเมืองศรีสะเกษต่อไป

นายจำรัส สวนจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในวันนี้ตนเองและดร.ฐิตารีย์ ไตรสรณปัญญา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงเรือหางยาวสำรวจลำห้วยคล้าแก้มลิงหนองเข็งน้อย ที่ติ้นเขินและมีวัชพืชขึ้น เพื่อจัดสรรงบประมาณในการขุดลอกลำห้วยคล้าแก้มลิงหนองเข็งน้อยให้เกษตรกรในพื้นที่ได้รับประโยชน์ให้มากที่สุด โดยปีงบประมาณ 2565 โครงการชลประทานได้จัดสรรงบประมาณ 85 ล้านบาทขุดลอกหน้าวัดพรมนิมิตร อำเภอวังหิน ถึงฝายน้ำล้นหนองเข็งน้อยห้วยคล้า อำเภอขุขันธ์ และในปีงบประมาณ 2567–2570 โครงการชลประทานจะจัดสรรงบประมาณ 600 ล้านบาท จากบริเวณวัดป่าพรหมนิมิต ตำบลวังหิน หน้าอ่างเก็บน้ำห้วยคล้า ตำบลธาตุ อำเภอวังหิน ระยะ 10.9 กิโลเมตร งบประมาณ 408.71 ล้านบาท ลำห้วยคล้าตอนล่าง จากท้ายอ่างๆห้วยคล้าไปจนถึงฝายยางกุดตำบลหมากเขียบ อำเภอเมือง งบประมาณ 191.29 ล้านบาท อ่างเก็บน้ำห้วยคล้า ตำบลธาตุ อำเภอวังหิน ระยะ 10.9 กิโลเมตร งบประมาณ 408.71 ล้านบาท ลำห้วยคล้าตอนล่าง จากท้ายอ่างๆห้วยคล้าไปจนถึงฝ่ายยางกุด ตำบลหมากเขียบ อำเภอเมืองศรีสะเกษ งบประมาณ 191.29 ล้านบาท มีปริมาณน้ำในลำน้ำห้วยคล้าเพิ่มขึ้นประมาณ 10.2 ล้าน ลบ.ม. มีเกษตรกรอำเภอขุขันธุ์ อำเภอวังหินและอำเภอเมืองศรีสะเกษ ได้รับประโยชน์จำนวน 10 ตำบล มีพื้นที่เกษตรกรรมจำนวน 10,000 ไร่ สามารถสร้างรายได้จากข้าวนาปรังในพื้นที่ประมาณ 5,000 ไร่ และบรรเทาปัญหาอุทกภัยซ้ำซาก และเป็นแหล่งน้ำประปาของชุมชนในพื้นที่และส่วนราชการที่ใกล้เคียงต่อไป

ด้าน ดร.ฐิตารีย์ ไตรสรณปัญญา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตนเองนั้นจะเป็นส่วนในการประสานงานผลักดันงบประมาณในการจัดทำโครงการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ส่วนโครงการชลประทานจังหวัดศรีสะเกษ จะเป็นผู้เขียนโครงการนำเสนอของบประมาณ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเข้มแข็งเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ให้มีส่วนร่วมในการจัดทำโครงการ ขจัดปัญหาต่างๆของโครงการ ขอให้ร่วมใจร่วมแรงกันอย่างจริงจังทุกอย่างก็จะสำเร็จตามที่ประชาชนต้องการมีน้ำเพื่อการเกษตรกรรม

ข่าว/ภาพ …… บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ