นรข.ยิงสนั่นลำน้ำโขง แก๊งค้ารถยนต์ข้ามชาติเปิดฉากรัวใส่ ยึดรวด 3 คันคาท่าทรายนักการเมืองท้องถิ่น ชี้เป็นขบวนการใหญ่จ้างผู้เช่าซื้อดาวน์ตามโชว์รูม แย้มมีกว่า 100 คันรอจังหวะลักลอบส่งเพื่อนบ้าน

วันที่ 11 เมษายน 2565 เวลา 11.00 น. บริเวณริมแม่น้ำโขงบ้านท่าดอกแก้วเหนือ หมู่ 6 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งเป็นท่าทรายของสมาชิกสภาจังหวัดนครพนม (สจ.) คนหนึ่ง นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) พ.อ.เถลิงศักดิ์ มูลประดับ เสนาธิการกองบัญชาการทหารบกที่ 210 (เสธ.มทบ.210) พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (รอง ผบก.ภ.จว.ฯ) พ.ต.อ.หญิง จิรนันทร์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับการกองพิสูจน์หลักฐานฯ (ผกก.พฐ) พ.ต.อ.แสวง คนคล่อง ผกก.สภ.ท่าอุเทน พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอท่าอุเทน ตชด.237 ตำรวจน้ำ ฯลฯ แถลงข่าวการตรวจยึดรถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน และเรือเหล็กเพลายาว พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 4 สูบ จำนวน 2 ลำ เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.50 น.ของวันที่ 10 เมษายน 2565

สืบเนื่องจากช่วงเช้าของวันดังกล่าว น.อ.ชัชวาลย์ โตรุ่ง เสนาธิการกองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (เสธ.นรข.) รักษาราชการแทนผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม (รรก.ผบ.นรข.เขตนครพนม) ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักรข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่ผ่านพิธีทางศุลกากร จึงสั่งการให้ น.ท.วรภัทร แสงสุวรรณ หัวหน้าสถานีเรือนครพนม (หน.สน.เรือนครพนม) ประสานตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ตชด.237) แบ่งกำลังในการซุ่มเฝ้าตามจุดล่อแหลมลาดตระเวนทางบกโดยไม่ยอมให้คาดสายตา

กระทั่งเวลา 21.50 น. ชุดลาดตระเวน นรข. ตรวจการณ์โดยใช้กล้องส่องกลางคืน พบเรือต้องสงสัยแล่นมาจากบริเวณกลางแม่น้ำ โดยฝั่งตรงข้ามบ้านท่าดอกแก้วเหนือ หมู่ 6 คือบ้านดงกลาง เมืองหินบูน สปป.ลาว เข้ามาจอดท่าทราย สจ.รายหนึ่ง โดยห่างจากจุดชุดลาดตระเวนที่ดักซุ่มอยู่ประมาณ 300-500 เมตร สักครู่ก็เห็นแสงไฟรถสว่างจ้าวิ่งลงมาจอดตรงจุดที่เรือลำดังกล่าวจอดเทียบท่า 1 คัน และยังมีแสงไฟรถยนต์สาดมาอีกหลายคัน ชุดลาดตระเวนจึงได้ทำการปิดระยะเพื่อเข้าตรวจสอบ กลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งคาดว่าน่าจะมีไม่น้อยกว่า 8 คน พอรู้ว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าชาร์จจับกุม ก็ยิงปืนไม่ทราบชนิดฝ่าความมืดหวังเปิดทางหลบหนีหลายนัด โดยทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ยิงตอบโต้ด้วยการยิงปืนขึ้นฟ้า คนร้ายที่ขับรถตามหลังมาเป็นคันที่สองตกใจ จึงได้ขับรถยนต์หักหลบวิถีกระสุนจนรถไถลหัวปักตกลงไปยังขอบเนินทรายริมแม่น้ำโขง ส่วนรถยนต์คันที่สามเห็นท่าไม่ดีจึงจอดรถตรงบริเวณทางลงท่าทรายเปิดประตูวิ่งหนีไปกับความมืด และมีรถ จยย.ที่น่าจะเป็นรถของผู้ติดตามเห็นจวนตัวก็ทิ้งรถวิ่งหนีเช่นเดียวกัน

ชุดลาดตระเวนได้ทำการตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบรถยนต์ จำนวน 3 คัน ประกอบด้วยคันแรกที่จอดริมแม่น้ำโขงเตรียมนำขึ้นเรือเหล็กที่ดัดแปลงเป็นเรือบรรทุกในการนี้โดยเฉพาะ ยี่ห้อ TOYOTA CAB สีขาว ไม่ติดป้ายทะเบียน พลาสติกหุ้มเบาะก็ยังไม่แกะออกเลย ในเก๊ะหน้ารถพบหลักฐานกรมธรรม์ประกันภัยค้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ระบุชื่อผู้เอาประกันเป็นหญิงสาว เริ่มวันคุ้มครองประกันภัยวันที่ 1 เมษายน 2565 บ้านอยู่ ต.แห่ใต้ อ.โกสุมพิสัย

จ.มหาสารคาม คันที่สองเป็นรถยี่ห้อ TOYOTA รุ่น Fortune สีขาว ทะเบียน กต 1268 สกลนคร สภาพหัวรถปักคาเนินทราย ภายในมีเครื่องดื่มชูกำลังเกือบ 10 ขวด และน้ำดื่มยี่ห้อหนึ่งที่ผลิตอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จำนวน 6 ขวด ส่วนกล้องหน้ารถถูกดึงออกไปเหลือเพียงสายห้อยต่องแต่ง และคันที่สามเป็นรถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 1 ฒจ 2234 กรุงเทพมหานคร สำหรับรถจักรยนต์ YAMAHA รุ่น Fino สีน้ำตาล-ขาว ทะเบียน จทร ชลบุรี 421ที่เป็นรถ จยย.ปิดท้าย สภาพไฟหน้าแตกต้องใช้เทปดำปิดทับ และเรือเหล็กเพลายาวสภาพใหม่เอี่ยม จำนวน 2 ลำ ส่วนริมท่าทรายตรงจุดเรือจอดพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม.จำนวนหนึ่งจึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผบ.นรข.เปิดเผยว่าทางการข่าวทราบว่ายังมีรถยนต์รอส่งข้ามฟากอยู่ประมาณ 100 คัน โดยจะบูรณาการสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงอย่างเต็มที่ ส่วนท่าทรายแห่งนี้ผู้ประกอบจะปฏิเสธอย่างไรก็ว่าไป แต่สถิติที่ผ่านมาบริเวณนี้เคยตรวจยึดยาเสพติดให้โทษมาแล้วหลายครั้ง เบื้องต้นได้นำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมในการใช้กฎหมายจัดการท่าทรายที่ไม่ปฏิบัติตามโดยเฉพาะด้านความมั่นคง

นอกจากนี้ด้านการข่าวตรวจพบว่า ขบวนการค้ารถยนต์ข้ามชาติเป็นแก๊งใหญ่ ว่าจ้างคนที่เห็นแก่เงินไปดาวน์รถตามโชว์รูมต่างๆ เมื่อได้รถมาแล้วก็จะมอบให้ผู้อยู่เบื้องหลังส่งขายประเทศเพื่อนบ้านทันที โดยพบรถยนต์คันแรกที่ยึดได้เพิ่งออกจากโชว์เมื่อวันที่ 1 เมษายน 65 ที่ผ่านมา เมื่อตรวจสอบไปสถานีตำรวจหลายแห่งไม่พบมีการแจ้งความร้องทุกข์ว่ารถหายแม้แต่รายเดียว