สาวเจ้าของร้านทุกอย่าง 20 บาท ทนายพาขึ้นโรงพักแจ้งความสาวใหญ่
ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ คิดว่าเป็นของลูกหนี้กวาดซะเกลี้ยงร้าน
วันที่ 8 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก น.ส.ลักขณา ปัทมา อายุ 24 ปี ว่า ร้านค้าของตนชื่อลักขณาพาณิชย์ตั้งอยู่ในรั้วบ้านเลขที่ดังกล่าว ได้ถูกชายหญิงจำนวนหนึ่งนำรถเก๋งและปิกอัพเข้ามาขนสิ่งของอุปโภค บริโภคที่จำหน่ายอยู่ภายในร้านจนหมดเกลี้ยง และเตรียมจะเดินทางไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับชายหญิงกลุ่มนี้ที่ สภ.โพนสวรรค์
ร้านดังกล่าวตั้งอยู่ปากทางเข้าบ้านแมด ห่างจากถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 2028 (ท่าอุเทน-กุสุมาลย์) ประมาณ 200 เมตร โดยส่วนหนึ่งจำหน่ายสินค้าราคาถูกทุกอย่าง 20 บาท มี น.ส.พิจิตรา ไชยสุระ หรือมุก อายุ 29 ปี เป็นผู้ดูแลร้านและเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ขณะกลุ่มชายหญิงนี้เข้ามาขนของภายในร้าน เล่าว่าวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตัวเองมีธุระจึงไม่ได้เปิดร้าน เวลาประมาณ 11.00 น. มีหญิง 2 คนใช้รถเก๋งเป็นพาหนะเข้าจอดหน้าร้าน บังเอิญพี่สาวของตน ขับรถจักรยานยนต์เข้าพอดี หญิงคนหนึ่งอ้างว่าชื่อแม่พิมอายุ 53 ปีเดินทางมาจาก อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ถามหาคนชื่อบิ๊กกับนก พี่สาวตอบว่าไม่อยู่เขาไปทำงานกันหมด แม่พิมจึงขอเบอร์โทรศัพท์พี่สาวตนไว้
วันที่ 1 มีนาคมตนได้มาเปิดร้านขายของตามปกติ ระหว่างนั้นเอง น.ส.วัญเพ็ญพี่สาวขับ จยย.ถือโทรศัพท์ยื่นให้ตนพูดกับสายปลายที่อ้างเป็นแม่พิม ว่า วันนี้เปิดร้านไหมตนตอบว่าเปิด ต่อมาช่วงบ่ายของวันเดียวกันหญิงที่ชื่อแม่พิมก็ขับรถเก๋งมากับหญิงอีกคนหนึ่ง พร้อมกับพูดว่าวันนี้จะมาขนของในร้านไปนะ ตนยังถามว่าโทรศัพท์ถามเจ้าของร้านคือน้องนกแล้วหรือยัง แม่พิมอ้างติดต่อแล้วไม่เปิดเครื่อง จากนั้นก็ถือวิสาสะขนของในร้านไปหลายรายการ รวมทั้งเทวรูปปี่เซี๊ยะตั้งบูชาไว้ที่ชั้นหลังเคาน์เตอร์ ซึ่งตอนนั้นตนยังไม่เอะใจสงสัยจึงไม่ได้โทรศัพท์บอกกับน้องนกเจ้าของร้าน
ต่อมาวันที่ 2 มีนาคมแม่พิมย้อนกลับมาเป็นครั้งที่สาม พร้อมรถปิกอัพคอกสูงอีก 1 คัน มีผู้ชายมาด้วยหลายคน คนหนึ่งอ้างเป็นตำรวจแต่ไม่ทราบว่าอยู่โรงพักไหน แม่พิมเข้ามาบงการสั่งให้ยกสิ่งของภายในร้านไปให้หมดไม่เว้นแม้แต่ชั้นวางสินค้า โดยถามตนว่าจอทีวีนี่คือกล้องวงจรปิดใช่ไหม ตนตอบว่าใช่แม่พิมจึงดึงปลั๊กออก โดยคิดว่าเมื่อหน้าจอคอมดับแล้วกล้องวงจรปิดไม่ทำงาน พร้อมทั้งไล่ให้ตนเข้าไปอยู่ในห้องนอนห้ามออกมาเด็ดขาด ด้วยความกลัวจึงอยู่แต่ในนั้นหลายชั่วโมง พอไม่มีเสียงคนคุยกันแล้วจึงออกมาพบว่าบริเวณร้านสิ่งของที่จัดวางจำหน่ายถูกยกไปเกลี้ยง เหลือแต่ห้องโล่งๆอย่างที่เห็น น.ส.มุกบอกด้วยความกลัวคนกลุ่มนี้จะย้อนกลับทำร้าย จึงไม่กล้าโวยวายหรือแม้แต่จะโทรศัพท์บอกน้องนก
กระทั่งเช้าวันที่ 8 มีนาคมน้องนกเดินทางมาจาก อ.เซกา จ.บึงกาฬ พบว่าทุกอย่างหายไปหมด จึงเรียก น.ส.มุกผู้ดูแลร้านมาสอบถาม หลังทราบข้อเท็จจริงแล้วจึงโทรศัพท์ปรึกษากับทนายความเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมเล่าว่าตนไปทำธุรกิจที่ อ.เซกา ซึ่งเป็นบ้านของสามีนานครั้งจะกลับมาดูร้านสักครั้ง โดยจ้าง น.ส.มุกซึ่งเป็นญาติกันเป็นผู้ดูแลร้าน และรู้จักกับแม่พิมโดยผิวเผินที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร และไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันแต่อย่างใด อีกทั้งก็ไม่เคยกู้หนี้ยืมสินกันด้วย การที่เอาพวกมายกเค้าสิ่งของในร้านไปโดยพละการเช่นนี้ ตนก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน ทนายบุญเที่ยง อินธิแสง เปิดเผยว่าได้แจ้งจากเจ้าของร้านกรรมการผู้จัดการ ว่า มีบุคคลภายนอกซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับเขามาลักขนข้าวของไปหมดเลย จึงจะแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า น.ส.ลักขณา ปัทมา หรือน้องนก เป็นหลานสาวของนายบิ๊กอดีตหนุ่มธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งนายบิ๊กกำลังมีคดีความกับเพื่อนสาวเป็นนักเรียนรุ่นเดียวกัน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงอยู่หลายคดี โดยเพื่อนสาวรายนี้โด่งดังจากการไปออกรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง เกี่ยวกับปริมาณอาหารที่ไม่สมกับราคาจนลูกค้าโพสต์ลงในสื่อโซเซียล และนายบิ๊กอาจจะไปติดหนี้แม่พิม อาจคิดว่าร้านจำหน่ายสินค้าแห่งนี้ คือทรัพย์สินส่วนหนึ่งของนายบิ๊กจึงพวกยกมากวาดสิ่งของจนเกลี้ยงร้าน ซึ่ง น.ส.นกยืนยันว่าตนคือเจ้าของร้านตัวจริงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนายบิ๊กทั้งสิ้น
เทพข่าวร้อน รายงาน