ปกครองวังน้ำเย็น สระแก้ว ประสานบูรณาการ 3 ฝ่าย ออกตรวจตราสิ่งผิดกฎหมาย
พร้อมกวดขันแรงงานกัมพูชาสกัดจับรถขนแรงงาน 2 คัน
พบแรงงานชายหญิงรวม 35 คน คนขับหลบหนีได้
ภายใต้การอำนวยการของนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว โดยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ออกปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายและแรงงานหลบหนีเข้าเมือง จึงได้สั่งการให้นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอวังน้ำเย็น พร้อมด้วยพ.ต.ท.ชนณพัฒน์ ศิริเลิศ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น,ร.ต.ท.สมศักดิ์ ทาหอม จนท.ตร.ชปข.ร้อยตขด.127,ร.อ.ทัศนา ดวงรัตน์ จนท.กอ.รมน.สระแก้ว และจนท.อส.ออกตรวจตราตามเส้นทางถนนสายวงแหวนบ้านเขาแหลม-เขาฉกรรจ์
จนกระทั่งเวลา 03.00 น.วันนี้ที่ 24 ก.พ.65 นายพีรวัส ดงพะจิต ปลัดฝ่ายความมั่นคง,พร้อมด้วยจนท.อส.และร.ต.อ.ชาญชัย สมทา รอง สว.สส.สภ.วังน้ำเย็น ได้ออกจรวจมาถึง บริเวณสวนมะม่วง ม.18 บ้านแสนสุข ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะสองคันวิ่งมาด้วยความเร็วสูง จนท.ทั้งหมดจึงได้ติดตาม และพบรถยนต์ทั้งสองคันดังกล่าว เป็นรถยนต์ อีซูซุ แค็ป ไฮแลนเดอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน บพ-9858 สระแก้ว คนขับทราบชื่อเล่นว่า นายก๊อฟ อายุ 35 ปี อาศัยความมืดหลบหนีไปได้ กับ รถยนต์ อีซูซุ แค็ป สีเทา หมายเลขทะเบียน 1ฒง-5668 กรุงเทพฯ ไม่ทราบชื่อคนขับ วิ่งหลบหนีไปได้เช่นกัน โดยจอดรถทิ้งไว้ข้างทาง และมีกลุ่มแรงงานชาวกัมพูชาทั้งชายและหญิง ยืนรอจนท.อยู่ริมทาง เป็นชาย 14 หญิง 14 ผู้ติดตาม(เด็ก) 7 คนรวมได้ 35 คน และจากการตรวจสอบพบว่า มีเอกสารพาสปอร์ต เกือบทุกคน
จากการสอบถามนายวีระ วอน 1 ในชาวกัมพูชา ที่สามารถพูดภาษาไทยได้ กล่าวว่า กลุ่มตนทั้งหมด เดินทางมาจากพื้นที่ชั้นในหลายหมู่บ้าน และมีนายหน้าชาวกัมพูชา พาเดินข้ามชายแดนเข้ามายังฝั่งไทยในช่วงดึก โดยมีการโทรฯประสานให้รถยนต์มารับ และจะพามารอรถตู้มารับอีกทีหนึ่ง โดยเสียค่านายหน้าข้ามเข้ามา คนละ 5,500-7,000 บาท ในแต่ละพื้นที่ที่จะไปส่งถึงที่ทำงาน ทั้ง กทม.สมุทรปราการ,ระยอง
จากนั้นจนท.จึงได้นำตัวแรงงานทั้งหมดมาที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 5 วังน้ำเย็น พร้อมเข้าตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนเป็นปรกติ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวนฯสภ.วังน้ำเย็น ดำเนินคดีและผลักดันต่อไป