เดือดร้อนหนัก เผาซังอ้อยติดรั้วบ้าน นอภ.รุดตรวจสอบเจอจับทันที
เผาซ้ำซาก ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก คนมักง่ายแอบเผาอ้อยทำให้ทั้งควันและเขม่าลอยปลิวเข้าบ้าน นายอำเภอทราบข่าว รุดตรวจสอบพร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเฝ้าระวัง หากพบกระทำความผิดจับทันที
ภาพจากชาวบ้าน ถ่ายภาพนาทีขณะที่ไฟกำลังโหมลุกไหม้ป่าอ้อยแสงไฟสว่างมองเห็นแต่ไกล เสียงอ้อยถูกไฟไหม้ดังลั่นโครมครามอีกทั้งเขม่าซางอ้อยลอยคุ้งเป็นหิมะดำลอยในอากาศปลิวเข้าในบ้านเรือนและหมู่บ้าน จนได้รับความเดือดร้อนกันอย่างหนัก โดยภาพดังกล่าวถ่ายจากภายในหมู่บ้านที่ได้รับความเดือดร้อน
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 มกราคม 2565 ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หมู่บ้านสราญรมย์ ที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากหมู่บ้าน ซี วิลเลจ ที่ก่อนหน้านี้ได้รับความเดือดร้อนจากการเผาอ้อย และได้พบกับนางสาว จิราภรณ์ พนมมรรค อายุ 25 ปี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน จากการเผาอ้อยแบบซ้ำซาก โดยได้พาไปที่ห้องนอนชั้นสองของบ้านเปิดหน้าต่างชี้ให้ดูว่า บ้านของเธอนั้นได้รับความเดือดร้อนแค่ไหน เพราะรั้วหลังบ้านนั้นอยู่ติดกับแปลงอ้อยที่เพิ่งจะเผาหมดไป และยังเหลืออีกแปลงที่ยังไม่ได้เผา และไม่รู้ว่าจะเผาเมื่อไร
โดยนางสาว จิราภรณ์ ได้เล่าว่า ทุกวันนี้เดือดร้อนมาก เพราะเหมือนถูกรมควัน ขนาดเวลานอนปิดบ้านปิดประตูหน้าต่างทั้งหมด ควันก็ยังเข้ามาในตัวบ้าน ซึ่งปกติแล้วตัวเองก็เป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว เมื่อเจอแบบนี้ยิ่งหายใจไม่ออก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหาแบบถาวร ตนซื้อบ้านอยู่ก็ต้องอยู่ไปตลอด แต่ก็มีเพื่อนบ้านบางหลังทนไม่ไหวประกาศขายบ้านไปก็มี
ด้าน นายพิสิษฐ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบ้านบึง หลังทราบข่าวได้รีบเดินทางเข้ามาดูความเดือดร้อนของประชาชน เข้าพูดคุยกับประชาชนในหมู่บ้าน พร้อมกำชับว่าทางอำเภอ ตำรวจ ไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะการเผาอ้อยนั้นผิดกฎหมาย แต่ที่ผ่านมาผู้ที่เผานั้นเลือกในเวลากลางคืน เมื่อจุดไฟเผาก็มักจะหายตัวไป และทางเจ้าของที่ก็ไม่ยอมรับว่าเป็นตนเผา ทางอำเภอ จึงได้กำชับขอให้ตำรวจ ช่วยตรวจสอบ ป้องกันในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวอ้อย เพราะหากพบการกระทำความผิดซึ่งหน้าก็สามารถจับกุมได้ทันที โดยทางอำเภอ ไม่ได้นิ่งนอนใจเมื่อได้รับแจ้งมีการเผาอ้อยก็ได้ประสานไปทางรถน้ำดับเพลิงจากเทสบาล ไปช่วยดับไฟทันที
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี