เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงชายแดนไทยมาเลเซีย จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา31 คน

ขณะซ่อนตัวอยู่ในร่องน้ำสวนยางพาราห่างชายแดนไทยมาเลเซีย1กิโลเมตร

รอคนมารับข้ามไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย

เมื่อเวลา 22.30 น.คืนวันที่19 ม.ค.ที่ผ่านมา  พ.อ.ฐนิตพนธ์ หงษ์วิไล ผบ ฉก ร.5 ร่วมกับนาย สุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ร่วมกับตำรวจ สภ.ปาดังเบซาร์ ฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา ตชด.437 ร่วมกันจับกุมแรงงานต่างด้างด้าวชาวเมียนมาจำนวน 31 คน เป็นชาย 25 คน หญิง 6 คน ซึ่งลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย

ขณะซ่อนตัวอยู่บริเวณร่องน้ำกลางสวนยางพารา พื้นที่หมู่1 บ้านต้นพะยอม ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ห่างจากชายแนวชายแดนไทยมาเลเซีย 1 กิโลเมตร และเจ้าหน้าที่ทหารที่ทำการลาดตระเวนเส้นทางแนวชายแดนไทย -มาเลเซีย ได้ไปพบกับแรงงานต่างด้าวทั้ง 31 คน และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปนำตัวมาสอบสวนที่สภ.ปาดังเบซาร์

จากการสอบถามผ่านแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาด้วยกัน ทราบว่า แรงงานเมียนมากลุ่มนี้เดินทางมาจากเมืองเมียวดี ประเทศพม่า เข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ด้านอ.แม่สอด จ.ตาก และถูกขนด้วยด้วยรถยนต์กระบะมาลงที่อ.หาดใหญ่ ก่อนที่จะมีคนมารับเดินทางต่อมาส่งที่ริมรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อเตรียมเดินทางเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย โดยมีทั้งทำงานร้านอาหารก่อสร้าง รับจ้างทั่วไป โดยต้องจ่ายค่านายหน้าคนละ 50,000 บาท

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้ง 31 คน สอบขยายผลไปยังกลุ่มผู้ค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติซึ่งเชื่อว่ามีทั้งคนไทย ชาวมาเลเซียและชาวเมียนมา และเครือข่ายเดียวกันที่ยังคงพยายามลักลอบนำแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเข้ามาโดยใช้ไทยเป็นทางผ่านเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสะเดาเพื่อนำชาวเมียนมาทั้ง31 คนเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดครองโควิด19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน และดำเนินการผลักดันกลับประเทศต่อไป

ภาพ/ข่าว มณีรัตน์ แก้ววิเชียร ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา