แรงงานเขมรหนีความอดอยากไม่ไหว โดยไม่เกรงกลัวโควิด-19 ยังลักลอบข้ามแดนเข้าไทย
ชุดเฉพาะกิจ.ทพ.12 รวบได้ 16 คน ริมชายแดนช่วงเช้ามืด
พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชค.กรม.ทพ.12 สืบทราบว่าจะมีแรงงานลักลอบข้ามชายแดนจากฝั่งประเทศกัมพูชาเข้ามาฝั่งประเทศไทยทางด้านชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงได้สั่งการให้ ร.อ.เตชทัต เฉลิมจิตต์ ผบ.ร้อย ทพ.1206 ประสานกับ ชป.1มว.ปชด.ที่ 1 ร้อย ปชด.ที่ 1 (พล.ร.11)ให้นำกำลัง จนท.เข้าร่วมทำการลาดตระเวนบนถนนศรีเพ็ญซึ่งเป็นถนนเลียบแนวชายแดนไทยกัมพูชาในพื้นที่ ต.เทศบาลป่าไร่ อ.อรัญประเทศ เพื่อป้องกันและจับกุมการลักลอบข้ามชายแดนของแรงงานผิดกฎหมายตามนโยบายของ กกล.บูรพา.อย่างเข้มงวด
ต่อมาขณะที่ จนท.ชุดร่วมดังกล่าวลาดตระเวนมาถึงทางเข้าบ้านป่าไร่ใหม่ ม.8 ต.เทศบาลป่าไร่ พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเดินอยู่ในป่าละเมาะห่างจากชายแดนประมาณ 200 เมตร จนท.จึงวางกำลังปิดล้อมพื้นที่และเข้าทำการตรวจสอบทันที ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มบุคคลต้องสงสัยดังกล่าวเป็นชาวกัมพูชาจำนวน16 คน แยกเป็นชาย 5 คนหญิง 4 คน เด็กชาย 4 คน เด็กหญิง 3 คน โดยทุกคนไม่มีหนังสืออนุญาตให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยแต่อย่างใด จนท.จึงทำการควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการตรวจวัดอุณหภูมิตามร่างกายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสอบสาวนอย่างละเอียด
ซึ่งจากการตรวจวัดอุณหภูมิตามร่างการชาวกัมพูชาทั้งหมดมีอุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์ปกติ และจากการสอบสวนเบื้องต้นโดยผ่านล่ามแปลภาษากัมพูชา แรงงานทั้งหมดยอมรับสารภาพว่า ปัจจุบันในฝั่งประเทศกัมพูชาไม่มีงานทำ พวกตนจึงพยายามดิ้นรนเข้ามาหางานทำในฝั่งประเทศไทยเพื่อหาเงินซื้ออาหารให้ครอบครัวกิน โดยล่าสุดมีนายหน้าชาวกัมพูชามาติดต่อให้พวกตนลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติบริเวณบ้านป่าไร่ใหม่ เพื่อมารับจ้างตัดอ้อยให้กับคนไทย พวกตนเห็นว่าอยู่ใกล้ชายแดนจึงพากันลักลอบข้ามชายแดนในเวลาเช้ามืด หวังจะเข้ามารับจ้างตัดอ้อยให้กับคนไทย แต่ก็ถูก จนท.ฝ่ายไทยจับได้เสียก่อน หลังสอบสวนเสร็จ จนท.ได้นำตังแรงงานทั้งหมดส่งให้ จนท.ตำรวจ สภ.คลองลึก ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวจาก.ไตรรัตน์ มีวงษ์ จ สระแก้ว